เนื่องจากงานประกวดมิสยูนิเวิร์สปีนี้ จัดขึ้นในไทยภายใต้คอนเซปต์ ‘Empowering women’ ผู้หญิงไม่ได้มีแค่ความสวย Smart SME จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในกระแสนี้ เพราะด้วยปัจจุบันเราจะเห็นพลังการขับเคลื่อนโลกจากเพศหญิงในหลายๆ ด้าน ทั้งจากผู้หญิงที่เป็นผู้นำ และผู้หญิงที่เป็นผู้ตาม รวมถึงผู้หญิงที่ออกมาค้าขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

ในขณะที่ผู้หญิงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้น เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางประเทศยังมีกฎหมายที่กีดกันความเสมอภาคทางเพศอยู่ จนมีการเรียกร้องสิทธิเกิดขึ้นมากมาย

อย่างไรก็ตาม การเป็นหญิงไทยก็ยังนับว่าโชคดีอยู่ เพราะแง่ของสังคมก็มีการยอมรับความเท่าเทียมทางเพศอย่างเปิดกว้าง และแง่ของกฎหมายก็มีการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม

เช่น กฎหมายที่ห้ามนายจ้างใช้แรงงานหญิงทำงานหนักที่ทำลายสุขภาพ อย่างงานเหมืองแร่ งานก่อสร้าง งานที่ต้องทำใต้ดิน-ใต้น้ำ งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้น 10 เมตรขึ้นไป รวมถึงงานผลิตหรือขนส่งวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ

ทั้งยังห้ามนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหญิงเพราะเหตุมีครรภ์ หรือให้ลูกจ้างหญิงที่มีครรภ์ทำงานในระหว่างเวลา 22.00 น.-06.00 น. ห้ามทำงานล่วงเวลาในงานเครื่องจักรหรือเครื่องยนต์ที่มีความสั่นสะเทือน งานขับเคลื่อนหรือติดไปกับยานพาหนะ งานยก แบก หาม ลากของหนักเกิน 15 กิโลกรัม รวมถึงงานในเรือ

ส่วนลูกจ้างหญิงที่ตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ใบรับรองแพทย์มายื่นขอให้นายจ้างเปลี่ยนงานในหน้าที่เดิมเป็นการชั่วคราวก่อน หรือหลังคลอดได้ โดยลูกจ้างหญิงมีครรภ์สามารถลานับรวมวันหยุด เพื่อคลอดบุตรได้ครรภ์หนึ่งไม่เกิน 90 วัน และนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตร ไม่เกิน 45 วัน/ครรภ์

ด้านการคุ้มครองกรณีการล่วงเกินทางเพศ ก็ห้ามไม่ให้นายจ้าง หัวหน้างาน กระทำการล่วงเกิน คุกคาม หรือก่อความเดือนร้อนรำคาญทางเพศต่อลูกจ้าง

ซึ่งการคุ้มครองแรงงานหญิงไทยเหล่านี้ เราคงตอบไม่ได้ว่าน้อยไปหรือไม่ แต่เชื่อว่าหญิงไทยทุกคนที่เป็น ‘Empowering women’ คงมองถึงความสุขในงานที่ทำ รวมถึงคุณค่าที่ได้รับจากงานเหล่านั้นสำคัญที่สุด

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สายด่วน 1506

Credit Images | IG ningsophidaa