นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยถึง ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของไทยกับประเทศที่ทำความตกลงการค้าเสรีร่วมกัน (FTA: Free Trade Area) ช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค. - ต.ค. 61) พบว่าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศคู่ FTA ที่มีมูลค่าการค้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 อาเซียน มูลค่าการค้า 95.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 2 จีน มูลค่าการค้า 66.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับ 3 ญี่ปุ่น มูลค่าการค้า 50.1 พันล้านเหรียญ

ส่วนการส่งออกไปประเทศคู่ FTA ช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ย. 61) ยังพบว่าผู้ประกอบการไทยใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA กับบางประเทศน้อยอยู่ โดยเฉพาะในการส่งออกไปอาเซียน ที่มีมูลค่า 19.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 64.4% และอินเดีย ที่มีมูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 58.3% ทั้งด้านการนำเข้าส่วนใหญ่ ผู้นำเข้ายังใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA อยู่ไม่เกิน 26%

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จึงจับมือสภาเกษตรกรแห่งชาติ หนุนเกษตรกร ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี โดยเฉพาะตลาดอาเซียน พร้อมมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานเพื่อสุขภาพ และความปลอดภัย (Food Health & Safety)

โดยงานจะจัดขึ้นทั้งสิ้น 6 ครั้ง สำหรับครั้งที่ 2 นี้ จะมีเสวนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง 'ช่องทางรวยของสินค้าเกษตรจาก FTA' และ 'ทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรสู่ตลาดต่างประเทศ' เพื่อเกษตรกรที่อยู่ในภาคตะวันออก อาทิ จังหวัดปราจีน นครนายก จันทบุรี ตราด และสระแก้ว ใช้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากร ที่ไทยตกลงไว้กับประเทศคู่ FTA มาเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการส่งออก - นำเข้ามากขึ้น พร้อมช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจ และขยายโอกาสทางการค้าของเกษตรกรไทยในระยะยาว

งานจัดขึ้นในวันที่ 7-9 มกราคม 62 ณ โรงแรมแคนทารี 304 อำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี

ผู้ประกอบการติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ ftacenter.dtn.go.th

หรือโทร 02-507-7555