ตำรวจฝากข้อมูลเตือนประชาชน ก็อปปี้สำเนาใบขับขี่แสดงแทนตัวจริงยังใช้ไม่ได้ จนกว่าบังคับใช้ทางการ 19 กันยายนนี้ ชี้ขับรถต้องพกตัวจริงไปก่อน หากไม่มีแสดงปรับทันที 1,000 บาท

หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12 ) โดยได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก กรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่าย ใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวนั้น

ล่าสุด เฟซบุ๊ก "สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย” ได้ออกมาให้ข้อมูลเพื่อย้ำเตือนความถูกต้องกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยระบุเนื้อหาว่า

“มีการโพสต์ในโลกโซเชียลกันมากมายเรื่อง มาตรา 31/1 ของ พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่ประกาศออกมาเรื่องการแสดงใบขับขี่ แล้วจะใช้ภาพถ่ายแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรแทนใบขับขี่ตัวจริงได้นั้น โดยขออนุญาตชี้แจงว่าสามารถแสดงได้ 3 รูปแบบด้วยกัน ประกอบด้วย

1.แสดงด้วยใบขับขี่ตัวจริง (แบบเดิม)
2.แสดงด้วยวิธีการทางข้อมูลอีเลคโทรนิคส์ (ใบขับขี่ digital) ซึ่งกรมการขนส่งทางบกประกาศรับรองแล้วโดยจะต้องใช้แอปพลิเคชันของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
3.สำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
ซึ่งขณะนี้กรมการขนส่งทางบกยังไม่ได้กำหนดรูปแบบออกมา เพราะฉะนั้น การใช้สำเนาถ่ายเอกสาร หรือภาพถ่ายใบขับขี่ในโทรศัพท์แบบที่แชร์กันยังไม่สามารถใช้แสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรได้นะครับ เว้นแต่จะมีประกาศของกรมการขนส่งทางบกออกมารับรองว่าใช้ได้

ทั้งนี้ พรบ.จราจรฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติม จะมีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2562 เป็นต้นไป”

อนึ่ง จนกว่าจะมีการประกาศผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อข้อกฎหมายดังกล่าว คือตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนเป็นต้นไปซึ่งจะเป็นวันครบกำหนด 120 วันตามประกาศในราชกิจจาฯ ดังนั้น ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดง ต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ ซึ่งหากไม่มีหรือไม่พกใบขับขี่ มาตรา 64 ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท