ชาวเวเนซุเอลานับหมื่นคนอพยพข้ามชายแดนที่ติดกับประเทศโคลัมเบีย หลังมีการเปิดพรมแดนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ด้าน UN เผยนับตั้งแต่ปี 2015 มีชาวเวเนซุเอลา อพยพออกนอกประเทศแล้วกว่า 4,000,000 คน

ชายแดนประเทศระหว่างเวเนซุเอลา และโคลัมเบียถูกปิดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ตามคำสั่ง Nicolás Maduro ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เนื่องจาก Juan Guaidó ผู้นำฝ่ายค้านเตรียมที่จะสนับสนุนด้านมนุษยธรรมให้สหรัฐฯ เข้ามาช่วยเหลือ โดยที่ผ่านมาประเทศต้องเผชิญกับการขาดแคลนปัจจัยขั้นพื้นฐานจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบมาอย่างยาวนานหลายปี

ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมามีชาวเวเนซุเอลาจำนวนมากกว่า 4,000,000 คน ต้องอพยพออกนอกประเทศ อีกทั้ง ตามรายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของโคลัมเบีย ที่กล่าวว่า ชาวเวเนซุเอลากว่า 30,000 คนได้เดินทางเข้าสู่โคลัมเบียในวันเสาร์ (8 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

โดยชายแดนของเวเนซุเอลาที่อยู่ติดกับประเทศโคลัมเบีย บราซิล และหมู่เกาะเนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส ต่างถูกสั่งให้ปิดทั้งหมด หลังจากฝ่ายค้านมีการสนับสนุนการช่วยเหลือจากต่างชาติ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ Nicolás Maduro ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ที่มองว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะล้มอำนาจของรัฐบาล แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา Maduro กลับออกมาประกาศเปิดชายแดนที่กล่าวไปข้างต้นอีกครั้ง ยกเว้นเกาะอารูบาที่ยังคงปิดอยู่

ทั้งนี้ การปิดชายแดนทำให้เกิดปัญหากับเมืองต่างที่ตั้งอยู่แนวพรมแดน โดยเฉพาะในเรื่องสินค้า และบริการที่จำเป็น ตลอดจนการหนีเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย ซึ่งบางครั้งต้องจ่ายเงินให้กับอาชญากรที่คุมเส้นทางหลบหนี

ที่มา: bbc