วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

ใช่ว่าจะขายดี สตาร์บัคส์ในอังกฤษเกือบ 1,000 แห่ง ผลประกอบการขาดทุนกว่า 600 ล้านบาท

by Anirut.j, 29 มิถุนายน 2562

สตาร์บัคส์อาจต้องปิดสาขา และสูญเสียรายได้ไปจำนวนมากในตลาดสำคัญของยุโรป

สตาร์บัคส์ รายงานผลประกอบการของธุรกิจว่า ร้านกาแฟในสหราขอาณาจักร ต้องพบกับผลประกอบการขาดทุนไป 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 675 ล้านบาท) หลังสิ้นสุดเดือนกันยายน 2018 โดยมาจากปัจจัยในส่วนการปิดสาขา และค่าแรงการจ้างพนักงานที่สูงขึ้น

สำหรับสหราชอาณาจักร ถือว่าเป็นตลาดใหญ่อันดับ 6 ของสตาร์บัคส์ โดยมีร้านค้าจำนวนทั้งหมด 994 แห่ง ต่อจากสหรัฐฯ, จีน, แคนาดา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ที่ผ่านมา ธุรกิจจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร และร้านค้าปลีกต้องดิ้นรนอย่างหนักในสหราชอาณาจักร จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนในเรื่อง Brexit ซึ่งสตาร์บัคส์ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันในเรื่องนี้เช่นกัน

Martin Brok ประธานร้านสตาร์บัคส์ดำเนินงานในยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ไปสู่ค่าเช่าที่สูง และการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อเนื่องทั่วภูมิภาค ซึ่งสตาร์บัคส์แก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนแปลงการให้บริการที่มีต่อลูกค้า ตลอดจนหลุดพ้นจากวัฒนธรรมเดิมๆ ที่มีมา

“บริษัทจะขยายร้านค้าแบบ drive-thru และทดลองให้บริการส่งกาแฟแบบเดลิเวรี่ร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง Uber Eats ในพื้นที่ของกรุงลอนดอน และเมืองอื่นๆ ในยุโรป, ตะวันออกกลางภายในปีนี้

ที่มา: CNN

 


Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line