ปฏิเสธไม่ได้ว่า “กาแฟ” ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดนิยมของผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งเราจะพบเห็นร้านกาแฟแบรนด์ต่างๆ ได้ตามทุกแห่งหน ไม่เว้นแต่ร้านสะดวกซื้อที่ยังมีการให้บริการขายกาแฟสดอยู่ในนั้นด้วย

ที่ผ่านมา ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับ All Café ที่อยู่ในร้าน 7-Eleven ที่ให้บริการเป็นสักพักใหญ่ โดยมีให้บริการ 24 ชั่วโมงผ่านสาขาประมาณ 5,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสร้างความได้เปรียบต่อการแข่งขัน เพราะไม่ต้องหาทำเลแต่อย่างใด เพราะมีอยู่แล้ว เพียงแค่นำเคาท์เตอร์ เครื่องชงกาแฟ และอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปติดตั้ง ตลอดจนการเทรนด์พนักงานให้สามารถชงกาแฟตามสูตรได้เลย

อีกทั้ง ในด้านการตลาดถือว่า All Café มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การออกเครื่องดื่มใหม่อย่าง ชานมไข่มุก เพื่อจับเทรนด์กระแสซึ่งกำลังได้รับความนิยม, การจับคู่เครื่องดื่มกับอาหารเพื่อให้ผู้บริโภคมีความคุ้มค่า ตลอดจนการโปรโมทด้วยการนำพรีเซ็นเตอร์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมาสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์

อย่างไรก็ตาม ตลาดกาแฟในร้านสะดวกซื้อ อาจจะไม่ได้มีเพียงแค่ 7-Eleven รายเดียวอีกต่อไป เพราะคู่แข่งในตลาดร้านสะดวกซื้อต่างมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย เริ่มมีการเสนอบริการใหม่ๆ ที่ครอบคลุม ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้น คือการให้บริการขายกาแฟ

เริ่มต้นกันที่ Tesco Lotus กับแผนพัฒนา Convenience Stores ให้มีความแข็งแกร่งในประเทศไทย และขยายธุรกิจเพิ่มอีก 750 สาขา ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง โดยปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้เดินเข้าไปซื้อของในร้านค้าไฮเปอร์มาร์เก็ตอีกต่อไป แต่จะเปลี่ยนไปเข้าร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กแทน

อีกทั้ง ต่อไปภายในร้าน Tesco Lotus Express ผู้บริโภคจะได้พบกับร้านกาแฟสดที่ร่วมกับ “ดอยตุง” เปิดให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยชูจุดเด่นในเรื่องของความยั่งยืนทางการเกษตรจากโครงการหลวง

• Tesco Lotus เล็งเปิดร้าน convenience stores อีก 750 แห่งในประเทศไทย 

ด้านบิ๊กซี ก็มีการปรับตัวเช่นเดียวกัน ด้วยการนำร้านกาแฟวาวี เข้ามาช่วยเป็นหนึ่งในฟันเฟืองขับเคลื่อนร้านสะดวกซื้ออย่างมินิ บิ๊กซี หลังกลุ่มธุรกิจ BJC เข้าซื้อกิจการด้วยเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท พร้อมดำเนินกลยุทธ์สร้างชื่อ และปูพรม 1,000 สาขา เพื่อเปิดร้านกาแฟวาวี ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า

สำหรับจุดเด่นของกาแฟวาวีอยู่ที่ขั้นตอนการทำกาแฟตั้งแต่การปลูก ที่มีการเลือกแหล่งเพาะปลูกที่ดีที่สุดของประเทศ พร้อมทั้งมีการดูแลในทุกขั้นตอนเป็นอย่างดี และผ่านการรับรองมาตรฐานจากต่างประเทศ

การปรับตัวในครั้งนี้ของร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย เป็นไปตามยุคสมัยที่ต้องการสร้างบริการที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภคยุคใหม่ เรียกว่าเดินทางมาที่เดียว สามารถได้รับบริการที่ครอบคลุม ทั้งซื้อสินค้า และได้รับประทานเครื่องดื่ม อีกทั้งยังเป็นการขยายฐานลูกค้าจากเดิมให้เพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นทางเลือกใหม่ สุดท้ายสิ่งที่จะวัดผลได้อยู่ที่การทำโปรโมชัน การให้บริการว่าจะตอบสนองลูกค้าได้ดีมากแค่ไหน ซึ่งเวลาจะเป็นตัวให้คำตอบในเรื่องนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• “บิ๊กซี”-“โลตัส” ลดไซส์ แข่ง 7-11 ชิงส่วนแบ่งตลาดเมืองรอง