Uber ผู้ให้บริการด้านคมนาคม ออกมายืนยันว่าบริษัทตัดสินใจปลดพนักงานฝ่ายการตลาดจำนวน 400 คน จากทั้งหมด 1,200 คนทั่วโลก เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างแผนก หลังผลการดำเนินงานขาดทุนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โดยอีเมลที่ถูกส่งโดย Dara Khosrowshahi ซีอีโอของ Uber ไปยังพนักงานระบุว่า “เราไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพราะคิดว่าแผนกการตลาดมีความสำคัญน้อยที่สุดสำหรับ Uber แต่ในความเป็นจริงเราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มีประสิทธิภาพ มีความเป็นปึกแผ่น และมีวิสัยทัศน์ที่ไม่หยุดนิ่ง”

นอกจากนี้ ตามรายงานข่าวของ New York Times เปิดเผยว่า Uber ต้องเผชิญกับความกดดันทางสภาวะด้านการเงินในเรื่องผลประกอบการที่มีรายได้ชะลอตัวเป็นประวัติการณ์ โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2019 Uber ต้องขาดทุนไป 1.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และรายได้ที่มาจากธุรกิจการท่องเที่ยวก็เติบโตเพียง 9% เท่านั้น

ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน Dara Khosrowshahi ประกาศว่าจะมีผู้บริหารระดับสูง 2 รายที่จะออกไปจากบริษัท รวมถึง Rebecca Messina หัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งทำงานกับบริษัทได้เพียง 9 เดือนเท่านั้น โดย Khosrowshahi ให้เหตุผลว่าการออกไปของเธอนั้นเป็นการตอบสนองของการควบรวมทีมการตลาด, ทีมการสื่อสาร และทีมนโยบายเข้าด้วยกัน สอดคล้องกับ โฆษกของ Uber ที่ออกมากล่าวว่า Hazelbaker และ Khosrowshahi ประกาศทีมการตลาดใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น สอดรับกับผู้บริโภคที่มีความหลากหลายทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และการให้บริการในแต่ละพื้นที่

ที่มา: edition.cnn