โลกออนไลน์เข้ามาอำนวยความสะดวกให้ใครๆก็สามารถโกยเงิน เป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่ายๆแค่ไม่กี่คลิกก็จริง แต่ในทางกลับกันก็เป็นโลกใบใหม่ที่ท้าทายสำหรับพ่อค้าแม่ขาย หากปรับตัวไม่ทัน รับมือไม่เป็นก็อาจเสียโอกาสที่จะโกยเงินเข้ากระเป๋า หรือต่อยอดธุรกิจได้ง่ายๆเช่นกัน

ดังนั้น ถ้าไม่อยากตกขบวน เพลี่ยงพล้ำในการฉวยโอกาสพิชิตเงินล้านจากการทำตลาดออนไลน์ที่สามารถเข้ามาเสริมทัพธุรกิจได้จริง ล้อมวงเข้ามาไขความลับจาก 3 กูรูการตลาดที่จะมาชี้ช่องทำเงินที่ใครๆก็ทำตามได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เหมาะกับธุรกิจ การวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ตลอดจนเทคนิคปิดการขายให้ยอดขายพุ่ง

เริ่มจาก ทิป-มัณฑิตา จินดา ผู้ก่อตั้งแฟนเพจ ‘Digital Tips – นับ 1 ถึงล้านด้วยการตลาดออนไลน์ เผยเทคนิคปั้นธุรกิจให้ปังว่า ต้องเริ่มจากเข้าใจธรรมชาติของโซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มว่ามีความแตกต่างกัน ทำให้พฤติกรรมของผู้เสพคอนเทนต์แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งช่องทางโซเชียลมีเดียยอดฮิตในปัจจุบันหนีไม่พ้นเฟซบุ๊ค อินสตราแกรม ยูทูบ และ ไลน์ แต่สำหรับมือใหม่เริ่มต้นทำธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องลุยทุกแพลตฟอร์มพร้อมกัน แต่ควรโฟกัสไปทีละแพลตฟอร์ม จนเมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต มีกำลังคนค่อยขยาย เพราะสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการบริหารแพลตฟอร์มคือความสม่ำเสมอ

“หากจะเลือกว่าธุรกิจเราเหมาะกับแพลตฟอร์มไหน ให้พิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าเป็นหลักว่าอยู่ในแพลตฟอร์มไหน ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นจากเฟซบุ๊ค เพราะเป็นที่นิยมเหมาะสำหรับสร้างการรับรู้ในสินค้าหรือแบรนด์อย่างรวดเร็ว ส่วนหลังจากนั้นจำเป็นหรือไม่ที่ต้องขยายไปให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ก็ย้อนกลับมาสู่จุดเดิมว่ากลุ่มเป้าหมายเราอยู่ในแพลตฟอร์มไหนบ้าง เพราะฉะนั้นช่วงเริ่มต้น

ผู้ประกอบการอย่ามัวกังวลว่าในช่วงเริ่มต้นจะต้องรู้ทุกอย่างแล้วค่อยลงมือ เพราะสุดท้ายอาจจะไม่ได้เริ่ม หรือมาเริ่มก็ไม่ทันเสียแล้ว แต่ในทางกลับกันถ้าไม่รู้อะไรเลยแล้วมาทำก็จะเจ็บตัวได้เหมือนกัน ดังนั้นรู้เท่าที่จำเป็นและใช้งานได้อย่างถูกต้อง ที่เหลือก็ค่อยๆเรียนรู้ไปจะดีกว่า”

นอกจากนี้ ทิพยังไขข้อข้องใจที่กลายเป็นความเข้าใจผิดของหลายๆคนว่า การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่สร้างเพจ ยิงโฆษณาก็จบ แต่มีกระบวนการหลายอย่างที่ต้องอาศัยความเข้าใจ และต้องมีการลงทุนบ้าง ที่สำคัญความรู้ในการทำตลาดออนไลน์ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว สิ่งที่ทำได้คือสังเกตการเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ค่อยๆ ศึกษา แค่มองว่าดิจิทัลเป็นเรื่องที่สนุก และพาไปสู่เป้าหมายได้หากเข้าใจอย่างถ่องแท้

ขณะที่ หมอกิม -นสพ.ธีรพงษ์ เศรษฐิวัฒน์ สัตวแพทย์ผู้คลุกคลีกับงานขายมาตลอดชีวิต เจ้าของเพจ The Sales-Partan และวิทยากรด้านการตลาด-การขาย เผยถึงกลยุทธ์ทำการตลาด B2B ในตลาดออนไลน์ว่า สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด คือ คอนเทนต์ รองลงมาคือ กลยุทธ์ในการกรองกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นลูกค้าในอนาคต และสุดท้ายคือช่องทางที่จะใช้

“ปกติลูกค้า B2B มีจำนวนแค่ 20-30% ของภาพรวมตลาดทั้งหมด ฉะนั้นการดึงกลุ่มลูกค้านี้เข้ามาจะต้องดีไซน์คอนเทนต์ที่แตกต่างจากการทำเพจทั่วไป และมีกระบวนการกรองกลุ่มผู้ติดตามที่เข้ามาว่าใช่กลุ่มเป้าหมายแท้จริงหรือไม่ ซึ่งวิธีการกรองมีหลายวิธี ที่นิยมคือ การขอข้อมูลส่วนตัว เพราะการที่ลูกค้ายินยอมให้ นั่นหมายความว่าลูกค้ามีแนวโน้มสนใจสินค้าหรือบริการของเรา ไม่ได้เพียงกดไลน์หรือกดแชร์ ขั้นตอนต่อไป คือ เมื่อได้รายชื่อเหล่านั้นมา เจ้าของธุรกิจจะนำไปต่อยอดเพื่อปิดการขายอย่างไร ซึ่งอาจต้องใช้ทีมงานหลังบ้าน อย่างทีมเซล หรือแอดมินนำไปไปต่อยอดต่อไป”

สำหรับการเลือกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้เหมาะกับกลุ่ม B2B หมอกิมแนะนำเครื่องมือ 2 ตัว หนึ่ง คือ กูเกิ้ลใช้เป็นเครื่องมือของการตั้งรับ เมื่อมีผู้สนใจอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ จึงเสิร์ชเข้ามาหาข้อมูล ขณะที่เฟซบุ๊คเป็นเครื่องมือเชิงรุก เพราะช่วยกระตุ้นหรือดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ สุดท้ายแล้วผู้ประกอบการจะเลือกเทน้ำหนักให้เครื่องมือตัวไหน ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าด้วย

“ผมมองว่าหลุมพรางสำคัญที่คนทำการตลาดออนไลน์แบบ B2B คือ ทำแค่พอให้มี แต่ไม่ได้ทำให้เกิด จนนำมาสู่ความเข้าใจผิดว่าธุรกิจของตัวเองไม่เหมาะกับออนไลน์ ทั้งที่คุณอาจจะยังทำไม่สุดก็ได้ เพราะทุกคนรู้ว่าต้องทำ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำในระดับไหน” หมอกิมทิ้งท้าย

ปิดท้ายด้วย ชนะ วนิชพันธุ์ เจ้าของเพจ Neuro-Selling ถอดรหัสการขาย เผยถึงกลเม็ดปิดดีลให้ยอดขายพุ่งว่า อันดับแรก ต้องเข้าใจธรรมชาติและกลไกการตัดสินใจของคู่ค้าก่อน ใช้หลัก “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” เพื่อให้สามารถนำเสนองานขายในรูปแบบที่ตรงใจคู่ขาย ถัดมา คือเลือกเครื่องมือในการเจรจาต่อรองอย่างถูกต้องเหมาะสม

“จากประสบการณ์ส่วนตัว สาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถปิดดีลได้สำเร็จมากที่สุด คือผู้ประกอบการอ่านลูกค้าไม่ออก นำเสนอไม่ค่อยได้ ปิดดีลไม่ค่อยเป็น ซึ่งการอ่านลูกค้าไม่ออกเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเหมือนกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก เม็ดต่อไปยังไงก็ผิด จะเห็นว่านักขายที่มีผลงานดี ผลประกอบการดี นักขายระดับท็อปเซลของบริษัท เขาสามารถพูดปิดการขายได้ดีโดยธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว เพราะเขาอ่านลูกค้าออกอยู่แล้ว แต่สำหรับนักขายหน้าใหม่ที่ประสบการณ์ยังน้อย อาจจะทำได้ไม่คล่องนัก ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่บริษัทต้องแก้ให้ได้”

ด้วยเหตุนี้ ท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของตลาดออนไลน์ เจ้าของธุรกิจที่อยากประสบความสำเร็จ พาธุรกิจไปสู่เป้าหมาย ต้องมีทักษะการขายหรือนักขายที่ตอบโจทย์กับยุค

“ยุคนี้การขายของออนไลน์เยอะมาก ธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปมาก กลุ่มที่ขายสินค้าราคาไม่สูง จะถูกธุรกิจออนไลน์เข้ามาแทนที่เพราะสามารถตัดสินใจซื้อทางออนไลน์ได้เลย แต่ถ้าธุรกิจไหน ขายสินค้าราคาสูงใช้ความเชื่อมั่น เชื่อใจ อาทิ ธุรกิจอัญมณี-เครื่องเพชร อสังหาริมทรัพย์ การร่วมทุนธุรกิจ ยังต้องอาศัยการเจรจาระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ธุรกิจออนไลน์ก็จะไม่สามารถเข้ามามีบทบาทในธุรกิจแบบนี้ได้ ทำได้เพียงนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาการขายทำให้ระบบการขายง่ายขึ้น”

เทคนิคทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งสำหรับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการที่อยากจะเฉิดฉายบนโลกออนไลน์ ถ้ายังไม่จุใจ ตามไปอัพเดตความรู้แบบเต็มๆ พร้อมกระทบไหล่สุดยอดกูรูด้านการตลาดที่แท็กทีมมาร่วมติดอาวุธพิชิตเส้นทางรวย อย่าพลาดสัมมนาด้านการขายและทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงาน

มหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (ประเทศไทย) “The 9th China ASEAN (Thailand) Commodity Fair 2019 & 10th Guangdong (Thailand) Products show 2019” หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า CACF & Guangdong Product Show ครั้งที่ 10 

งานดีที่จะมาช่วยเพิ่มโอกาสให้คนที่อยากสร้างหรือขยายธุรกิจไปกับ 8 กูรูใน 8 หัวข้อ ตั้งแต่ 5-7 ก.ย.นี้ เวลา 11.00 - 18.00 น. ณ ฮอลล์ 100 ไบเทค บางนา

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมฟังฟรี! ที่ http://bit.ly/2TgJX2a
เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ chinaproductshowbkk.net/