การชุมนุมเรียกร้องเสรีภาพของฮ่องกงต่อจีนแผ่นดินใหญ่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ด้วยกัน แน่นอนเรื่องราวที่เกิดขึ้นย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจากปักกิ่งเป็นอย่างมาก และเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาเปราะบางมากที่สุดระหว่างทั้งสองฝ่าย

ท่ามกลางเหตุการณ์ที่ไม่สงบ ย่อมมีการคาดการณ์ว่าจีนจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด หนึ่งในนั้นคือการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุการณ์โดยตรง ซึ่งหากใครติดตามเรื่องราวอย่างใกล้ชิดจะพบภาพข่าวที่ถูกเผยแพร่ออกมาตามสื่อ ไม่ว่าจะเป็น ภาพการฝึกซ้อมของกำลังพลในเมืองเซินเจิ่นที่มีอาณาเขตติดกับฮ่องกง หรือแม้แต่ภาพรถหุ้มเกราะที่วิ่งบนท้องถนน เหล่านี้มีการวิเคราะห์กันว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนไปยังผู้ชุมนุมชาวฮ่องกงว่า หากยังเดินเรียกร้องต่อไปอาจจะเจอกับเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เป็นได้

ในด้านเศรษฐกิจ ฮ่องกงถือว่าเป็นแหล่งศูนย์กลางทางด้านการเงินของโลก และมีความเชื่อมโยงกับจีนมาตลอดในรอบสองทศวรรษ ซึ่งหากปล่อยให้การชุมนุมดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ย่อมส่งผลกระทบมหาศาล ทั้งต่อจีน และฮ่องกง รวมถึงประเทศอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อมาถึงบรรทัดนี้ เรามาดูกันว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้จีนไม่ต้องการปล่อยให้ฮ่องกงต้องหลุดมือไป และควรคงสภาพเดิมไว้

• ฮ่องกง คือตลาดนอกประเทศที่ใหญ่สุดของธนาคารจีน โดยคิดเป็น 7% ของสินทรัพย์ธนาคาร Bank of China

• บริษัทจีน โดยเฉพาะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการระดมทุนด้านการเงิน ต่างใช้ฮ่องกงเป็นสถานที่ออกตราสารหนี้เป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ แม้จะมีต้นทุนกู้ยืมสูงก็ตาม

• บริษัทจากจีนกว่า 100 ราย จดทะเบียนในฮ่องกง เช่น Tencent, CNOOC

• ชาวจีนบางรายที่ต้องการแปลงเงินหยวนเป็นดอลลาร์ต่างใช้ฮ่องกงเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยน โดยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่อนุญาตให้ผู้ซื้อหลีกเลี่ยงการเข้มงวดจากจีน

• ฮ่องกง คือจุดหมายยอดนิยมในการลงทุนโดยตรงจากนักธุรกิจจีน คิดเป็นมูลค่า 981 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2017

• ตามรายงานของหน่วยงานทางด้านการเงินของจีน ระบุว่า สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับจีนของธนาคารฮ่องกง มีมูลค่ามากกว่า 560 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจบไตรมาสแรกของปีนี้

ที่มา: bloomberg