ส่องคำโบราณ "กระท้อน ยิ่งทุบยิ่งหวาน" จริงหรือไม่?
by Smart SME, 20 สิงหาคม 2562
เคยได้ยินสำนวนไทยๆ ที่บอกไว้ว่า กระท้อน “ยิ่งทุบยิ่งหวาน” นั่นคือเรื่องจริงหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ
กระท้อน “ยิ่งทุบยิ่งหวาน”เป็นคำคมจากปราชญ์ชาวบ้าน ที่ทำกันมาเนิ่นนานแล้วเห็นผล โดยพบว่ายิ่งเราทุบกระท้อนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ความอร่อยเพิ่มขึ้น
โดยกระท้อนเป็นผลไม้ที่มีรสชาติฝาด เปรี้ยวอมหวานแล้วแต่ตามฤดูกาล ซึ่งมีสรรพคุณมากมาย นอกจากนีิ้ยังสามารถนำกระท้อนมาดัดแปลงได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะนำมารับประทานแบบสดๆ หรือจะนำมาปรุงอาหารทั้งคาวและหวานก็อร่อยได้หลากหลาย
ทุกๆ ปีเราจะเห็นแม่ค้านำกระท้อนออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นสวรรค์ของคนที่ชอบรับประทานกระท้อน ความพิเศษคือผลไม้ชนิดนี้ ค่อนข้าง Limited Edition คือให้ผลผลิตเพียงปีละครั้ง แต่ละครั้งจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากในเดือนธันวาคม-มกราคม
โดยแหล่งปลูกกระท้อนที่สำคัญในอดีตคือจังหวัดนนทบุรี มีสายพันธุ์ที่นิยมปลูกเป็นการค้า 6 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ทับทิม, ปุยฝ้าย ,นิ่มนวล, ปุยไหม,เทพศิริ, อีล่า ทั้ง 6 สายพันธุ์ดังที่กล่าวมานี้ พันธุ์ปุยฝ้ายและพันธุ์นิ่มนวลเป็นพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกมากที่สุด เพราะมีผลขนาดใหญ่และจำหน่ายได้ราคา
กระท้อน มีสรรพคุณมากมาย ดังนี้
1. สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
2. ป้องกันฟันผุ
3. ลดระดับคอเลสเตอรอล
4. แก้ท้องเสีย
5. ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
6. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
เรียกได้ว่าเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่โดดเด่นทั้งรสชาติและคุณค่า ซึ่งของดีมีประโยชน์แบบนี้ต้องยกให้เป็นสุดยอดผลไม้ที่ควรหามารับประทานเลยจริง ๆ ครับ
Mostview
เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน
ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%
สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท
จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา
ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ