การเก็บภาษีรอบใหม่ของสหรัฐฯ ต่อสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 15% ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่สองประเทศคู่กรณีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบริษัทจากญี่ปุ่นที่มีฐานผลิตในจีนซึ่งได้รับผลกระทบจากทำสงครามการค้าในรอบนี้

Uniqlo แบรนด์เสื้อผ้าค้าปลีก ซึ่งมีฐานผลิต Fast Retailing ในจีน โดยสินค้าจะถูกส่งไปยังสาขาทั้ง 52 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งตลาดอเมริการเหนือมีมูลค่ารวมคิดเป็น 90,000 ล้านเยน (847 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือคิดเป็น 5% ของยอดขายรวมบริษัทในปี 2018

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สงครามการค้าได้ส่งผลกระทบต่อสินค้าเพียงไม่กี่ชนิดของ Uniqlo แต่การเก็บภาษีครั้งล่าสุดของสหรัฐฯ กลับมีผลกระทบต่อสินค้าชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ และกางเกง

ด้าน แหล่งข่าวใกล้ชิดของ Uniqlo เผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังมองหาฐานการผลิตใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเล็งไปที่เวียดนาม, กัมพูชา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงย่อมมากับความท้าทาย แต่เราก็ยังคงพึ่งพาวัตถุดิบจากจีนเป็นหลัก และจะทำให้ราคาต้นทุนสูงในการจัดส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ

ไม่เพียงแต่ Uniqlo ที่ได้รับผลกระทบเพียงรายเดียวเท่านั้น แต่ยังมีบริษัทญี่ปุ่นรายอื่นๆ ที่ได้รับปัญหาจากการทำสงครามการค้าเช่นกัน โดย Hideo Tanimoto ประธาน Kyocera ผู้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องปริ้นเตอร์แบบ all-in-one กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะสลับย้ายฐานผลิตสินค้าจากโรงงานจีนไปยังเวียดนาม

“ปัจจุบันโรงงานในจีนผลิตสินค้าป้อนสหรัฐฯ ส่วนโรงงานในเวียดนามผลิตสินค้าส่งไปที่ยุโรป ซึ่งเราจะแก้ปัญหาโดยการสลับการผลิตระหว่างกัน ซึ่งคาดว่ากระบวนการนี้จะเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม”

นอกจากนี้ ยังมี Seiko Holdings ผู้ผลิตนาฬิกา ก็เตรียมพิจารณาย้ายฐานผลิตสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากจีนไปยังญี่ปุ่น รวมถึงนาฬิกาแบรนด์ Citizen Watch ที่เล็งไทยเป็นฐานการผลิต

ที่มา: asia.nikkei