รัฐบาลเตรียมส่งข้าวเหนียวราคาถูกลอตแรก บรรเทาความเดือดร้อนผู้บริโภคในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง พร้อมกระจายผ่านร้านธงฟ้าทั่วประเทศ 17 ก.ย.นี้ ตั้งเป้าผลิต 2-3 แสนถุง 2 ขนาด 2 กก. ราคา 70 บาท และ 5 กก. 175 บาท

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.62 นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการบริษัทธนสรรไรซ์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้ลงนามสัญญาผลิตข้าวถุงเหนียวขนาด 2 กก. และ 5 กก. เพื่อจำหน่ายในร้านธงฟ้ากับกรมการค้าภายใน เพื่อช่วยแก้วิกฤติราคาข้าวเหนียวแพงในช่วงนี้นั้น โดยทางบริษัทได้ดำเนินการบรรจุข้าวเหนียวถุง ภายใต้ชื่อ “ข้าวเหนียวลดค่าครองชีพ” ขนาด 2 กิโลกรัมราคา 70 บาท และขนาด 5 กิโลกรัม 175 บาท โดยจะผลิตเป็นข้าวขนาด 2 กก. จำนวน 2 แสนถุง และขนาด 5 กก. จำนวน 1 แสนถุง

โดยคาดว่าจะสามารถผลิตข้าวถุงเหนียวได้ตามเป้า 2-3 แสนถุง ภายในวันที่ 17 ก.ย. นี้ และจะสามารถกระจายข้าวเหนียวลดค่าครองชีพไปยังร้านธงฟ้าได้ภายในเดือนนี้ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการกระจายข้าวเหนียวลดค่าครองชีพไปยังร้านธงฟ้า ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเป็นจุดแรก

สำหรับข้าวที่จะบรรจุถุงขายครั้งนี้เป็นข้าวสารเหนียว 10% เพื่อให้กรมนำออกมาจำหน่ายบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชนจากปัญหาราคาข้าวเหนียวปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะมีราคาจำหน่ายไม่เกิน กก.ละ 35 บาท ต่ำกว่าราคาท้องตลาด กก. ละ 5 ถึง 10 บาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาราคาข้าวเหนียวพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะข้าวเหนียวพันธุ์ กข6 จากเดิมราคากิโลกรัมละ 25-30 บาท พุ่งมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 43-45 บาท สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ค้าขายไปจนถึงผู้บริโภคต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางปี กระทั่งมาแพงสุดขีดในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยราคาขายทะยานถึง กก.ละ 50 บาท เป็นผลมาจากภาวะภัยแล้งทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และเป็นช่วงปลายฤดู ทำให้รัฐบาลต้องหามาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภคก่อน

อย่างไรก็ตาม สำหรับราคาข้าวเหนียวขณะนี้ทรงตัวแล้ว โดยข้าวสารเหนียว กก.ละ 40-45 บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียวตันละประมาณ 20,000 บาท เมื่อผลผลิตฤดูกาลใหม่ทยอยออกในช่วงเดือน ต.ค.นี้ เป็นต้นไป คาดว่าสถานการณ์ราคาข้าวเหนียวแพงจะคลี่คลาย