กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 8 เดือนปี 62 ทำได้ 915,517.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.07% เหตุได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ค่าเงินบาทแข็งค่า รับเป้าปีนี้ 1.6 ล้านล้านบาท ส่อพลาด

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยในช่วง 8 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่ารวม 915,517.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.07% แยกเป็นการส่งออก 509,045.79 ล้านบาท ลดลง 1.65% และการนำเข้า 406,471.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.31% เกินดุลการค้า 102,574.19 ล้านบาท

ซึ่งเป็นการเติบโตแบบชะลอตัวลง สอดคล้องกับการส่งออกภาพรวมของไทยช่วง 8 เดือนที่ลดลง 2.19% เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งให้เศรษฐกิจโลกและคู่ค้าชะลอตัว และยังมีความไม่มีเสถียรภาพของค่าเงินของแต่ละประเทศ รวมถึงค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่าและค่าเงินประเทศเพื่อนบ้านอ่อนค่า ทำให้กระทบต่อการค้าชายแดนและผ่านแดน

ทั้งนี้ หากแยกเฉพาะการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มีมูลค่า 729,869.62 ล้านบาท ลดลง 1.16% เป็นการส่งออก 409,664.97 ล้านบาท ลดลง 5.11% นำเข้า 320,204.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.39% เกินดุลการค้า 89,460.31 ล้านบาท โดยเป็นการค้ากับมาเลเซียสูงสุด มูลค่า 357,829.02 ล้านบาท ลดลง 4.78%

รองลงมา คือ เมียนมา มูลค่า 133,865.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.763% สปป.ลาว มูลค่า 131,812.67 ล้านบาท ลดลง 6.93% และกัมพูชา มูลค่า 106,362.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.10% และการค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มีมูลค่า 185,647.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.24% เป็นการส่งออก 99,380.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.76% นำเข้า 86,266.95 ล้านบาท ลดลง 4.74% เกินดุลการค้า 13,113.88 ล้านบาท

โดยเป็นการค้ากับจีนตอนใต้สูงสุด มูลค่า 88,655.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.83% รองลงมา คือ เวียดนาม มูลค่า 48,970.66 ล้านบาท ลดลง 11.37% และสิงคโปร์ มูลค่า 48,021.80 ล้านบาท ลดลง 15.50%

“แนวโน้มการค้าชายแดนในช่วงที่เหลืออีก 4 เดือนของปีนี้ (ก.ย.-ต.ค.) จะยังคงขยายตัวได้เพิ่มขึ้น เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการส่งเสริม แก้ปัญหาการค้าชายแดน และผลักดันการค้าชายแดนอย่างต่อเนื่อง แต่มูลค่าทั้งปี คงไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% โดยคาดว่าตัวเลขทั้งปีน่าจะทำได้ 1.4 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับตัวเลขปี 2561 ที่ทำได้ 1.4 ล้านล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย” นายอดุลย์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข่าวดี คือ ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิด-ระงับหรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ ครั้งที่ 2/2562 ได้เห็นชอบให้เปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วและบรรเทาปัญหาจราจรติดขัดบริเวณด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1

รวมทั้งเห็นชอบทดลองขยายเวลาทำการด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม 24 ชั่วโมง เพิ่มอีก 9 เดือน (ตั้งแต่ 17 ก.ย.2562–16 มิ.ย.2563) ซึ่งจะช่วยให้การค้าชายแดนไทย-เมียนมา และไทย-มาเลเซีย ขยายตัวได้เพิ่มขึ้น และกรมฯ จะยังคงผลักดันให้มีการเปิดด่านชายแดนเพิ่มขึ้นต่อไป เช่น ด่านบ้านฮวก จ.พะเยา และด่านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน