BOI เผยยอดตัวเลขการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 พบว่ามีการเพิ่มขึ้น 69% โดยเฉพาะจีน-ญี่ปุ่นที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมปักหมุดในประเทศไทย

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 (มกราคม-กันยายน) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,165 โครงการ เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,048 โครงการ ขณะที่มูลค่าการลงทุนรวมมีจำนวนทั้งสิ้น 314,130 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากในปี 2561 มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในกิจการน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป

ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 พบว่ามีจำนวน 689 โครงการ มีเงินลงทุน 203,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ร้อยละ 69 โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยมีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 167 โครงการ เงินลงทุน 59,187 ล้านบาท ตามด้วยอันดับ 2 คือ จีน มีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 139 โครงการ เงินลงทุน 45,439 ล้านบาท และอันดับ 3 สวิตเซอร์แลนด์ มีคำขอรับการส่งเสริมจำนวน 15 โครงการ เงินลงทุน 11,710 ล้านบาท

สำหรับ โครงการลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนของปีนี้ อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายจำนวน 585 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมทั้งหมด มีมูลค่ารวม 185,710 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59 ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมทั้งหมด ซึ่งหากพิจารณาในด้านจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมมากที่สุดจะอยู่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล ขณะที่ในด้านมูลค่าเงินลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ โครงการที่ยื่นคำขอรับส่งเสริมเป็นโครงการต่างชาติถือหุ้นทั้งสิ้น ร้อยละ 38 คนไทยถือหุ้นทั้งสิ้น ร้อยละ 36 และโครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ ร้อยละ 26