ปัจจุบันการกู้ยืมเงินนั้นมีหลายช่องทางทั้งผ่านสถาบันทางการเงิน เอกชน ตลอดจนบุคคลใกล้ตัว เพื่อนำไปใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ซึ่งในบางครั้งผู้กู้ยืมเงินต้องพบกับดอกเบี้ยในราคาที่สูงจนเกินไป และส่งผลกระทบต่อการชำระเงินในที่สุด

อย่างไรก็ตาม การที่เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยสูงอาจเป็นเรื่องที่เข้าข่ายผิดกฎหมายเป็นได้ โดยเฟซบุ๊กแฟนเพจ สายตรงกฎหมาย โพสต์สเตตัสว่า ปัจจุบันการกู้ยืมเงินในภาคเอกชน (ชาวบ้านกู้ยืมเงินกันเอง ไม่รวมถึงธนาคาร สถาบันการเงิน) กฎหมายให้เรียกดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 15% ต่อปี การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ในการข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยถือว่าเป็นโมฆะ

แต่สัญญาในส่วนต้นเงินยังใช้บังคับได้ ดังนั้น เมื่อลูกหนี้จ่ายต้นเงินไปครบแล้ว ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยอีก เพราะหนี้เป็นอันระงับไปแล้ว

คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 1913/2537 การที่โจทก์นำดอกเบี้ยล่วงหน้าที่คิดจากจำเลยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 654 ไปรวมเป็นต้นเงินที่กู้ยืมตามสัญญากู้เฉพาะดอกเบี้ยที่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจึงเป็นโมฆะ แต่หนี้เงินต้นและข้อตกลงให้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1.25 ต่อเดือน ยังคงสมบูรณ์ สัญญากู้ไม่ตกเป็นโมฆะทั้งฉบับ และในส่วนที่สมบูรณ์โจทก์ย่อมนำมาใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมฟ้องร้องบังคับคดีได้

นอกจากนั้น การเรียกดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี ยังมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องรอให้ตำรวจมาจับ แต่ถ้าคุณรู้แล้ว ก็ไม่ควรทำผิดกฎหมายต่อไป