สถานการณ์การชุมนุมในฮ่องกงถือว่าเป็นไปอย่างดุเดือดในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมจนส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ดูได้จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในไตรมาส 3/2019 ของฮ่องกง พบว่า หดตัว 3.2% ซึ่งติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน

ไม่เพียงเท่านั้นแบรนด์สินค้าชั้นนำต่างๆ ต้องปิดร้านชั่วคราว เพราะหวั่นกระทบต่อความปลอดภัย รวมถึงในภาคส่วนการท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติเลือกเดินทางไปประเทศอื่นแทนที่ฮ่องกง

ขณะที่ในด้านคมนาคมของฮ่องกงดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าใต้ดินสถานียูนิเวอร์ซิตี ของระบบรถไฟขนส่งมวลชน (MRT) สายตะวันออก ที่ถูกทำลายจนเสียหายอย่างหนัก

Tony Lee รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท เอ็มทีอาร์ คอร์เปอเรชัน กล่าวว่า สถานียูนิเวอร์ซิตี และขบวนรถไฟถูกเผาเสียหายอย่างร้ายแรง โดยฝ่ายวิศวกรรมได้เข้าประเมินความเสียหายเบื้อต้นพบว่าสถานีดังกล่าวต้องซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด หรือเทียบได้กับการสร้างขึ้นมาใหม่

สถานียูนิเวอร์ซิตีอยู่ใกล้กับพื้นที่การประท้วง และถูกผู้ชุมนุมทุบทำลาย จุดไฟเผา และพังอุปกรณ์ติดตั้งต่างๆ ภายสถานี รวมถึงทำลายรถไฟ 2 ขบวนที่จอดอยู่

ทั้งนี้ สถานียูนิเวอร์ซิตียังคงไม่สามารถใช้สัญจรได้ และระบบรถไฟใต้ดินในฮ่องกงยังเปิดให้บริการเพียงบางส่วนเท่านั้น 

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• ฮ่องกงเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากสงครามการค้า และการประท้วงที่ยังไม่ยุติ  
• แบรนด์สินค้าหรูทยอยปิดสาขาชั่วคราวหนีความไม่สงบในฮ่องกง