รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผย เหตุรุนแรงสหรัฐฯ-อิหร่าน ต้องติดตามใกล้ชิด เตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจ ปลายเดือน ม.ค.หารือผลกระทบความผันผวนเศรษฐกิจโลก ถกแผนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ นำเขตอีอีซี เป็นต้นแบบ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายการเมือง) กล่าวว่า จากปัญหาความรุนแรงสหรัฐฯ-อิหร่าน จากการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ไทยต้องเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบ เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะลุกลามบานปลายเพิ่มมากน้อยเพียงใด เพราะหากเหตุการณ์เกิดผลกระทบขยายวงกว้าง คงต้องศึกษามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมารองรับผลกระทบเพิ่มเติม เมื่อทั่วโลกได้รับผลกระทบย่อมส่งผลถึงไทย ทั้งตลาดหุ้น ราคาสินค้า ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน ทุกหน่วยงานจึงต้องเตรียมการรองรับ และหากผลกระทบยาวมากจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของไทย จึงต้องประเมินว่าต้องมาการดูแลเพิ่มเติมอย่างไร

ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ศึกษามาตรการหลายด้านดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะมาตรการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย” ซึ่งได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว จึงสามารถรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเอสเอ็มอีได้ เพราะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หากได้รับผลกระทบรุนแรงจะมีปัญหา หรือล้มง่าย เมื่อเตรียมการรองรับไว้ด้วยการปลดล็อคได้หลายเรื่องทั้งสภาพคล่อง การปรับโครงสร้างนี้ จะทำให้เอสเอ็มอีรองรับปัญหาเศรษฐกิจโลกผันผวนได้

ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ปลายเดือน ม.ค.นี้ เตรียมหารือเกี่ยวกับแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่ต้องเร่งรัดในปี 63 เพื่ออัดฉีดเงินออกสู่ระบบ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ หลังจากเขตอีอีซี ลงนามคัดเลือกผู้สัมปทานหลายโครงการได้ข้อสรุปในไตรมาสแรก ขั้นต่อไปจะเป็นการดึงดดูดนัดกลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตอีอีซี และการสร้างเมืองใหม่ฉะเชิงเทรา สมาร์ทซิตี้

นอกจากนี้ สศช. เตรียมเสนอการเชื่อมโยงพัฒนาเขตเศรษฐกิจ โดยใช้เขต EEC เป็นต้นแบบนำร่องเขต SEC ของภาคใต้ และ NEC ของภาคเหนือ โดยมีคณะกรรมการดูแลชัดเจน เพื่อสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็ง