กรุงเทพฯ 14 กุมภาพันธ์ 2563 - LINE ผู้นำองค์กรเทคโนโลยีระดับโลก เผยตลาด SMEs ไทยในปีนี้จะเกิดการแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดขึ้นกว่าเดิม SME ได้ก้าวเข้าสู่โลก online เพิ่มขึ้น มีการพัฒนาต่อยอด E-Commerce เพื่อใช้ในการแข่งขัน ด้วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมมาช่วยจัดการร้านค้าให้ตอบโจทย์ มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม LINE จึงได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ล่าสุด MYSHOP ที่จะช่วยจัดการร้านค้าบน LINE Official Account แบบครบวงจร ให้ SME สามารถเดินหน้าทำธุรกิจบน LINE ได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเผยความร่วมมือกับ TGIF ในงาน LINE Market Fest ให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่จาก LINE รวมถึง MyShop สร้างประสบการณ์การช้อปแบบ OMO (Online Merge Offline) อย่างเต็มรูปแบบร่วมกันเป็นที่แรก!

คุณสกุลรัตน์ ตันยงศิริ หัวหน้าธุรกิจ SME, LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมของผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทย มีจำนวนกว่า 3 ล้านคน คิดเป็น 43.9% ของอัตราการเติบโต GDP ของประเทศไทย ซึ่ง 85% ของแรงงานถูกจ้างโดย SMEs นอกจากนี้ SMEs ไทยส่วนใหญ่พร้อมปรับตัวรับเทรนด์ดิจิทัล โดยเริ่มมีการผสมผสานระหว่างธุรกิจออนไลน์ไปยังออฟไลน์ (OMO) เพื่อยกระดับธุรกิจให้หลุดจากกรอบร้านค้าในรูปแบบเดิมๆ ซึ่ง LINE เล็งเห็นศักยภาพของผู้ประกอบการ และด้วยวิสัยทัศน์ของ LINE ที่มุ่งสร้าง Life on LINE ตอบโจทย์ชีวิตของผู้ใช้งานได้ทุกเวลาทุกรูปแบบ ทั้งในเชิงธุรกิจ LINE จึงไม่หยุดคิดค้นและนำเสนอโซลูชั่นต่างๆ เพื่อช่วยต่อยอดธุรกิจ SMEs เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่กว่า 40% จะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Social Media ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนิยมใช้วิธีการ ‘แชท’ เพื่อซื้อสินค้าเป็นพิเศษ

โดยที่ผ่านมา LINE ได้นำเสนอ LINE Official Account (LINE OA) เป็นตัวช่วยผู้ประกอบการสร้างธุรกิจออนไลน์ ด้วยการเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารเพื่อปิดการขาย อย่างไรก็ตาม ทาง LINE ได้เล็งเห็นโอกาสในตัวแพลตฟอร์ม ด้วยการค้าขายออนไลน์ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มักจบที่การแชทผ่าน LINE ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของผู้ขายและผู้ซื้ออย่างแท้จริงและยั่งยืนผ่านแพลตฟอร์มเรา LINE จึงได้มีการต่อยอด LINE OA ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งาน SME กว่า 3 ล้านคน ให้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการในการปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนา MyShop เครื่องมือใหม่ล่าสุดที่จะช่วยผู้ประกอบการสามารถทำการค้าผ่าน LINE OA ได้อย่างเต็มรูปแบบ เปรียบเสมือนโซลูชั่นแบบครบวงจร ไม่ว่าจะด้วยระบบจัดการทั้งหน้าร้านและหลังร้าน ส่วนสต๊อกสินค้า การออกใบสรุปออเดอร์ให้ลูกค้าผ่านแชทได้ทันที ระบบจดจำที่อยู่ของลูกค้า เป็นต้น ทำให้กระบวนการซื้อขาย พูดคุย แม้กระทั่งการชำระเงินและตรวจสอบสถานะสินค้าทางฝั่งผู้ซื้อนั้น ง่าย ครบ จบในที่เดียว ในขณะที่ฝั่งผู้ขาย ก็สามารถจัดการกระบวนการทุกอย่าง ตั้งแต่แนะนำสินค้า พูดคุย เช็คสต็อกสินค้า ออกใบออเดอร์รวมทั้งบิลให้ลูกค้าได้ครบ จบในที่เดียวผ่าน MyShop เช่นกัน โดยในปีนี้เรามุ่งหวังให้ MyShop ขึ้นเป็นเครื่องมือหรือโซลูชั่นอันดับ 1 สำหรับ SME ไทยที่อยากทำการค้าผ่าน LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกเหนือจากการแนะนำเครื่องมือ MyShop แล้ว เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ SME ไทยได้เรียนรู้และประยุกต์ใช้ LINE OA ได้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เรายังได้จับมือกับ TGIF ยักษ์ใหญ่ผู้นำทางด้านอีเวนต์แฟชั่นของเมืองไทน เป็นครั้งแรก จัดงาน LINE Market Fest ศูนย์รวมร้านค้าครั้งยิ่งใหญ่สุดล้ำ ด้วยร้านค้าในเครือ TGIF ถึงกว่า 150 ร้าน พร้อมความพิเศษคือร้านค้าต่างๆ ได้มีโอกาสใช้เครืองมือใหม่ล่าสุดคือ MyShop ในสนามจริง เพื่อสร้างการซื้อขายแบบไร้รอยต่อกับผู้บริโภคได้อย่างเต็มรูปแบบ เนรมิตให้ LINE Market Fest ครั้งนี้เป็นศูนย์รวมประสบการณ์การช้อป การซื้อขายแบบ OMO คือผสมผสานรูปแบบร้าน การขายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างลงตัว วันที่ 28 ก.พ.- 1 มี.ค. นี้ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

“ก่อนหน้านี้ เราได้มีการเปิดอบรมการใช้งานดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่าง LINE ให้เกิดประโยช์สูงสุด รวมถึงแนะนำการใช้งาน MyShop ให้กับผู้ประกอบการหลากหลายกลุ่มตลอดมา จะเห็นได้ว่า นอกจากจุดมุ่งหมายที่จะให้ SME ไทยมาใช้งานแพลตฟอร์มเราในการประกอบธุรกิจแล้ว เราอยากให้ผู้ประกอบการ SME ไทยทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องของการทำการค้าแบบ OMO รู้จักทำการค้าที่ควบคู่ระหว่างออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกง่ายดาย และที่สำคัญต้องตรงใจและใกล้ชิดลูกค้าของเขาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และสร้าง loyalty ได้อย่างแท้จริง โดย LINE พร้อมเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันส่งเสริม SMEs ไทยให้เติบโตสู่โลก OMO ได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งไม่หยุดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้ใช้งานต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน” คุณสกุลรัตน์กล่าวทิ้งท้าย