รองนายกฯ สมคิด สั่ง สสว. ขอ ครม.50,000 ล้าน ช่วยอัดฉีดสภาพคล่องให้ SME ช่วยคนตัวเล็กให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน

วันที่ 29 มิ.ย.63 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตรวจเยี่ยมและประชุมมอบนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยสั่งการให้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ช่วยเหลือผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้

โดยมอบหมายให้ สสว.ทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีภายในวันอังคารที่ 7 ก.ค.นี้ เพื่อขอ อนุมัติงบประมาณ จำนวน 50,000 ล้านบาทจากงบเยียวยา เพื่อตั้งกองทุนของ สสว.ที่จะนำมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ คาดว่า เงินก้อนแรกนี้ จะสามารถนำมาช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ประมาณ 500,000 ราย และรัฐบาลมีความตั้งใจว่า นอกจากวงเงิน 50,000 ล้านบาทก้อนแรกแล้ว ยังจะช่วยเหลืออีก 50,000 ล้านบาท รวมเป็น 100,000 ล้านบาท

นายวีระพงษ์ มาลา ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า สสว.คาดว่า กองทุนฯ จะเริ่มช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ภายใน 1 เดือนหลังจาก ครม.อนุมัติงบประมาณ โดยทาง สสว.จะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในการปล่อยเงินกู้ ขณะที่ธนาคารของรัฐ จะทำหน้าที่ปล่อยเงินกู้นี้ แต่ผู้ที่จะกู้ได้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องมีกิจการเป็นหลักแหล่งแน่นอน วงเงินอุดหนุนแบ่งเป็น 2 ก้อนคือ

ก้อนแรก "เงินเติมพลังชีวิต" จำนวนรายละไม่เกิน 100,000 บาท และอีกส่วนคือ "การเพิ่มทุน" เพื่อเสริมสภาพคล่องไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย เงื่อนไขผ่อนปรน ดอกเบี้ยร้อยละ1 ต่อปี วงเงินกู้ระยะยาวผ่อนชำระ 10 ปี อัตราการผ่อนชำระหนี้เดือนละไม่ถึง 10,000 บาท โดยพิจารณาปล่อยกู้ให้กับธุรกิจที่มีโอกาสและมีศักยภาพ แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องเข้าร่วมอบรมหรือพัฒนาทักษะปีละครั้งทั้งจาก สสว.หรือหน่วยงานร่วมอื่นๆ ก็ได้

ดังนั้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จะต้องเป็นสมาชิกของภาครัฐและเอกชนอย่างใดอย่างหนึ่งภายใน 1 ปี เช่น เป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หรือสมาชิกสมาพันธ์เอสเอ็มอีหรือสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ก็ได้

นอกจากนี้ สสว.จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ที่ปี 2562 มีมูลค่าถึง 1.3 ล้านล้านบาท หากช่วยเอสเอ็มอีมีแต้มต่อเข้าถึงได้ร้อยละ 30 จะสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการได้กว่า 400,000 ล้านบาท คาดว่า มาตรการนี้ จะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.ถึง ต.ค.นี้