หนึ่งในความสุขของการใช้ชีวิตคือการได้ท่องเที่ยวไปสัมผัสโลกกว้างในสถานที่ต่างๆ ซึ่งคอลัมน์ชลประทานพาไปฉบับนี้จะขอนำทุกท่านไปรู้จักกับ “เขื่อนสิริกิต์” เพื่อสัมผัสกลิ่นอายของความสุข พร้อมสูดโอโซนที่โอบล้อมตัวเขื่อนไว้ในทุกทิศทาง
เขื่อนสิริกิติ์ หรือเดิมชื่อว่า “เขื่อนผาซ่อม” ตั้งอยู่ ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยก่อสร้างปิดกั้นแม่น้ำน่าน บริเวณเขาผาซ่อม ต่อมาได้รับพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ขนานนามว่า “เขื่อนสิริกิติ์” จัดเป็นเขื่อนดินที่มี ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เขื่อนแห่งนี้ เดิมอยู่ในความดูแลของ กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายหลังจาก ที่ได้มีการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานจึงได้มอบให้การไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบดูแลต่อไป มีความสูง 113.6 เมตร มีความยาวสันเขื่อน 800 เมตร กว้าง 12 เมตร ภายหลังสร้างเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2515 เก็บกักปริมาณน้ำได้สูงสุด 10,500 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากจะสามารถช่วยบรรเทาอุทกภัยในทุ่งราบสองฝั่งแม่น้ำน่าน ภายหลังพื้นที่รับประโยชน์ถึง 2,800,000 ไร่แล้ว ยังสามารถช่วยบรรเทาอุทกภัยในทุ่งราบสองฝั่งแม่น้ำน่าน ตลอดจนทุ่งเจ้าพระยาลงมาถึงกรุงเทพมหานคร

ในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังเขื่อนสิริกิติ์ เริ่มต้นจากกรุงเทพมหานครจะใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ ประมาณ 7 ชั่วโมง ตามเส้นทางกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ และจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ ไปตาม ทางหลวงหมายเลข 1045 ระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร

เขื่อนสิริกิติ์นอกจากจะยังประโยชน์มหาศาล ในด้านน้ำเพื่อการชลประทานและเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วยังจัดเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ “มีจุดชมวิวสันเขื่อน” ที่สามารถมองเห็นพื้นที่รายล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้เขียวชอุ่ม หากมาท่องเที่ยวในช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อนบรรยากาศจะเงียบสงบเหมาะกับคู่รักที่จะมาสร้างความสัมพันธ์ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น สภาพทั่วไปประกอบด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ เช่น ต้นสักทอง ต้นประดู่ ต้นพี้จั่น ต้นงิ้วป่า ต้นปอแดง ฯลฯ ที่สลับกันออกดอกงามสะพรั่ง มีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นสักขีพยานความรักที่แสนจะโรแมนติก แต่หากมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนของทุกปีจะมี “ปรากฏการณ์ธรรมชาติแม่น้ำ 2 สี” ที่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์บริเวณสะพานน้ำปาดเชื่อมระหว่างเขื่อนสิริกิต์กับตลาดบ้านปากปาด เกิดจากน้ำใสของเขื่อนสิริกิติ์ที่ไหลมาตามแม่น้ำน่านมาบรรจบกับน้ำจากแม่น้ำปาดที่มีสีแดงขุ่นจากน้ำฝนที่ตกบริเวณตอนเหนือนอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันนั้นยังมี “สะพาน เฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ” สะพานแขวน ด้วยสายเคเบิลสวยงามทอดกลางผ่านเขื่อนสิริกิติ์ เป็นอีก 1 จุด Check-in สำคัญที่ห้ามพลาด

ทริปใกล้เขื่อนสิริกิติ์

ถัดออกมาจากตัวเขื่อนไม่ไกลนัก มาจุดประกายความสุขกับการสัมผัสทะเลสาบเหนือเขื่อนสิริกิติ์อย่างใกล้ ๆ นักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรมล่องแพได้ที่ “บ้านท่าเรือ” หมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบกับธุรกิจเล็ก ๆ ของชาวบ้านในชุมชนมาเปิดให้บริการล่องแพซึ่งมีทั้งแบบค้างคืนหรือเช้าไปเย็นกลับ พร้อมเมนูอาหารจากปลาน้ำจืดสดมาปรุงให้รับประทานและที่พักในตัว เรียกว่าอิ่มใจสบายท้องในทริปเดียว ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีแน่นอน