แน่นอนว่าการลงมือทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยงเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าไม่ลงมือเราก็จะไม่รู้ว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะออกมาเช่นไร คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ทำไปหรือไม่

เช่นเดียวกับ Jeff Bezos เจ้าของ Amazon แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทุกวันนี้กลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ สร้างมูลค่าอย่างมหาศาลมากถึง 6.2 ล้านล้านบาท จนผลักดันให้เจ้าตัวก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของโลก อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปวันแรกที่เริ่มต้นทำธุรกิจใครจะไปคิดว่า Jeff Bezos จะแสดงความมั่นใจออกมาไม่ถึงครึ่งว่าธุรกิจนี้จะประสบความสำเร็จ แถมเปรยกับครอบครัวว่าอาจจะต้องสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดไป

Amazon ก่อตั้งในปี 1994 เริ่มแรกของธุรกิจเป็นการขายหนังสือออนไลน์ ซึ่ง Bezos เผยถึงเรื่องนี้ผ่านบทสัมภาษณ์ “KING-TVs “Evening Magazine” ว่า ตนคิดว่าธุรกิจจะล้มเหลว โดยตอนนั้นมั่นใจว่าธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จเพียง 30% เท่านั้น และไม่เคยคิดว่าบริษัทจะก้าวมาจนถึงจุดนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ Bezos ยังบอกกับครอบครัวที่ให้ทุนในการจัดตั้งธุรกิจด้วยเงินจำนวน 245,573 ดอลลาร์สหรัฐฯ ว่าพวกเขามีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนกับบริษัทไปทั้งหมด โดยในตอนนั้น Bezos ลาออกจากงานเพื่อมาทำธุรกิจ Amazon อย่างเต็มตัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “อินเทอร์เน็ต” คืออะไร

แม้ว่าครอบครัวของ Bezos จะช่วยสนับสนุนเรื่องเงินทุน แต่พวกเขาก็มีความกังวลถึงการตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจ และคุณแม่ของเขาไม่ต้องการให้ออกจากงาน โดยให้แบ่งเวลามาทำธุรกิจในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือช่วงกลางคืนได้หรือไม่

สุดท้ายดูเหมือนว่าการตัดสินใจของ Bezos จะเป็นเรื่องที่มาถูกทาง เมื่อ Amazon เปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สาธารณะในปี 1997 จนมาถึงวันนี้ได้กลายเป็นบริษัทที่มูลค่าในตลาดมากถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตลอดระยะเวลา 25 ปี ของ Amazon ถือเป็นเรื่องเกินความคาดหมายของ Bezos ที่ธุรกิจเดินทางมาถึงจุดนี้ และยอมรับเขาหวังสร้างบริษัทที่ไม่ใช่หน้าตาอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้

ที่มา: CNBC