ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลกินเจ ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม-25 ตุลาคม 2563 รวมเป็นระยะเวลา 9 วันด้วยกัน แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้เทศกาลกินเจไม่คึกคักสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จึงทำให้ผู้คนระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า เปิดเผยผลวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจ โดยสำรวจกลุ่มประชากรจำนวน 1,393 ตัวอย่าง พบว่าเทศกาลกินเจในปี 2563 จะมีเงินสะพัดประมาณ 46,967 ล้านบาท ขยายตัว 0.9% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2551

เทศกาลกินเจปี 2563 ไม่คึกคัก

จากการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่มองว่าจะไม่คึกคัก โดยร้อยละ 39.8% มองว่ามาจากปัจจัยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, ร้อยละ 18.6 ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูงขึ้น และร้อยละ 19.1 มาจากการตกงาน รายได้ลดลง โดยประชาชน ร้อยละ 60.2 จะไม่กินเจ ส่วนร้อยละ 39.8 จะกินเจ

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในแต่ละบุคคลของเทศกาลกินเจจะตกอยู่ที่คนละ 11,469 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 11,155 บาท โดยมาจากปัจจัยในเรื่องของค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงสินค้าในกลุ่มอาหารที่เกี่ยวข้องกับอาหารเจปรับราคาขึ้น

สำหรับช่องทางการเลือกซื้ออาหารเจ ร้อยละ 76.45 ระบุว่าจะไปเลือกซื้อเองตามตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป ส่วนร้อยละ 23.6 สั่งซื้อผ่าตัวกลางขนส่งไลน์แมน วินมอเตอร์ไซค์ และสั่งผ่านระบบ Call Center

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าราคาอาหาร และวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารเจจะปรับตัวสูงขึ้น โดยร้อยละ 58.0 มาจากสาเหตุค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ขายต้องปรับราคา รวมถึงปัญหาโควิด-19 และค่าแรงที่สูงขึ้น และร้อยละ 41.1 มองว่าราคาเท่าเดิม