ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของผู้ให้บริการด้านเส้นทางบินยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ดูจากผลประกอบการในไตรมาส 3/2020 ที่ทุกรายยังคงมีตัวเลขขาดทุนอยู่

เริ่มกันที่การบินไทย แม้ว่าจะเข้ากระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่ดูเหมือนว่าการดำเนินธุรกิจยังไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่นัก โดยผลประกอบการในไตรมาส 3/2563 พบว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 3,727 ล้านบาท ลดลง 91% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และบริษัทมีการดำเนินขาดทุนสุทธิ 21,536 ล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้การบินไทยมีรายได้ลดลง มาจากสาเหตุสำคัญในเรื่องการขนผู้โดยสาร และสินค้าลดลงที่ลดลงถึง 37,654 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากบริการอื่น ๆ ก็ลดลง 1,718 ล้านบาท คิดเป็น 56.2% เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทาง

ส่วนไทยแอร์เอเชีย มีผลประกอบการในไตรมาส 3/2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,403.2 ล้านบาท ลดลง 75% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และบริษัทขาดทุนอยู่ที่ 1,836.8 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของไทยแอร์เอเชียเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวดูได้จากรายได้ในไตรมาส 3/2563 ที่เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยสำคัญมาจากเส้นทางบินภายในประเทศที่กลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติเกือบจะเท่ากับช่วงก่อนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และจากการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้สามารถขนส่งผู้โดยสารได้มากกว่า 1.86 ล้านคน โดยมีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 65 พร้อมทั้งเปิดฐานปฏิบัติการบินใหม่ที่ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ในเดือนกันยายน สร้างโอกาสขยายฐานลูกค้ารวมถึงการให้บริการขนส่งสินค้า รักษาความเป็นผู้นำตลาดในประเทศที่เเข็งเเกร่งขึ้น

สุดท้าย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ในไตรมาส 3/2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 903 ล้านบาท ลดลง 86.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และขาดทุนอยู่ที่ 1,569 ล้านบาท ลดลง 2,805% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้กลับมาเปิดเส้นทางการบินภายในประเทศเป็นหลัก พร้อมกับปรับแผนเส้นทางบิน และเพิ่มเที่ยวบินให้มีความเหมาะสมต่อความต้องการเดินทาง ขณะที่ส่วนบริหารบริษัทได้มีมาตรการปรับลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็น การปรับลดเงินเดือนผู้บริหาร และพนักงาน การยกเลิก Outsourse รวมถึงปรับขนาดองค์กรให้สอดคล้องกับการทำงาน