ผู้ประกอบการ เฮ! กทม.เตรียมเปิดจุดทำการค้าเพิ่ม 34 แห่ง ใน 8 สำนักงานเขต
by Pagon.p, 21 ธันวาคม 2563
กรุงเทพมหานคร เตรียมกำหนดพื้นที่ทำการค้าเพิ่ม 34 แห่งทั่วกรุง ใน 8 สำนักงานเขต เร่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลพิจารณา
วันที่ 18 ธ.ค.63 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2563 โดยมี คณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า)
ที่ประชุมได้พิจารณาจุดผ่อนผันที่ยังไม่ได้ยกเลิก จำนวน 171 จุด ในพื้นที่ 18 เขต และพิจารณาพื้นที่ทำการค้าในบริเวณใหม่ หรือในจุดผ่อนผันเดิมที่ได้ยกเลิกไปแล้ว ว่าจุดใดที่เข้าเกณฑ์หรือไม่ขัดต่อประกาศกรุงเทพมหานคร (ฉบับใหม่) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ลงวันที่ 28 มกราคม 2563
ซึ่งสำนักงานเขตได้เสนอพื้นที่ทำการค้าซึ่งเป็นจุดผ่อนผันที่ยังไม่ได้ยกเลิก และขอทบทวนเป็นพื้นที่ทำการค้า จำนวน 8 สำนักงานเขต จำนวน 33 จุด และพื้นที่ทำการค้าใหม่ จำนวน 1 จุด รวมจำนวนทั้งสิ้น 34 จุด ให้คณะกรรมการฯ พิจารณา ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ โดยจะเสนอให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลพิจารณาต่อไป
สำหรับจุดทำการค้าดังกล่าวจะผ่อนผันผู้ค้ารายเดิมได้ขายต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นให้ยึดถือตามประกาศฯ ฉบับใหม่ ทั้งนี้ จุดทำการค้าที่อนุญาตมีหลายจุดที่คุณสมบัติหรือลักษณะทางกายภาพไม่เข้าข่ายหลักเกณฑ์ตามประกาศฉบับใหม่ อย่างไรก็ดีในช่วง 6 เดือนแรกนี้ จะอนุโลมให้ก่อน หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง
สำหรับจุดทำการค้า จำนวน 34 จุด ที่สำนักงานเขตเสนอให้กำหนดพื้นที่ทำการค้า ประกอบด้วย
สำนักงานเขตบางคอแหลม จำนวน 2 จุด ได้แก่
1.บริเวณตลาดคลองสวนหลวง
2.บริเวณถนนเจริญกรุง 81-85
สำนักงานเขตยานนาวา จำนวน 5 จุด ได้แก่
1.บริเวณหน้าตลาดรุ่งเจริญ ถนนสาธุประดิษฐ์
2.บริเวณปากซอยปริยานนท์ ถนนสาธุประดิษฐ์
3.บริเวณหน้าตลาดนางลิ้นจี่ ถนนนางลิ้นจี่
4.บริเวณหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถนนพระราม 3
5.บริเวณหน้าบริษัทไอซีซี ถนนสาธุประดิษฐ์ 59
สำนักงานเขตลาดพร้าว จำนวน 1 จุด ได้แก่
บริเวณตรงข้ามกองปราบปราม ถนนโชคชัย 4
สำนักงานเขตคลองเตย จำนวน 7 จุด ได้แก่
1.หน้าธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาคลองเตย
2.หน้าองค์การโทรศัพท์ ถนนพระราม 4
3.ซอยสุขุมวิท 4
4.ซอยไผ่สิงโต
5.ซอยอรรถกวี
6.ซอยแสนสุข ฝั่งซ้าย
7.ซอยสุขุมวิท 18
สำนักงานเขตปทุมวัน จำนวน 4 จุด ได้แก่
1.ถนนสารสิน ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกสารสิน
2.ถนนหลังสวน ตั้งแต่ทางเข้าอาคารเมอร์คิวรีถึงอาคารเลขที่ 29-29/4 3.หน้าอาคารโรแล็กซ์ ถนนวิทยุ
4.หน้าวัดดวงแข ถนนจารุเมือง
สำนักงานเขตบางรัก จำนวน 7 จุด ได้แก่
1.ถนนคอนแวนต์ ฝั่งซ้าย - ฝั่งขวา
2.บริเวณซอยสีลม 5
3.ถนนพระราม 4 ตั้งแต่ซอยจอมสมบูรณ์ถึงซอยพระนคเรศ
4.ซอยสีลม 9 สาทร 10,12
5.ถนนสีลม บริเวณหัวมุมถนนมเหสักข์ถึงปากซอยสีลม 12
6.ถนนสุรวงศ์ ขาเข้า ตั้งแต่หัวมุมถนนธนิยะถึงซอยสุรวงศ์ เซ็นเตอร์
7.ถนนสุรวงศ์ ขาออก บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทยถึงหน้าร้านนวดแผนไทย
สำนักงานเขตบางกอกน้อย 7 จุด ได้แก่
1.ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช ถนนวังหลัง(ฝั่งขาออก)
2.ปากตรอกวังหลัง ถนนอรุณอัมรินทร์(ฝั่งขาเข้า)
3.ชอยแสง ฝั่งนันทอุทยาน (สโมสรทหารเรือ) ถนนอิสรภาพ (ฝั่งขาเข้า)
4.หน้าตลาดพรานนก ถนนอิสรภาพ (ฝั่งขาเข้า)
5.หน้าตลาดบางกอก ถนนอิสรภาพ (ทั้งสองฝั่ง)
6.หน้าตลาดบางขุนนนท์ ถนนบางขุนนนท์ (ฝั่งขาออก)
7.หน้าไปรษณีย์บางขนนนท์ ถนนบางขุนนนท์ (ฝั่งขาออก)
และพื้นที่ทำการค้าใหม่ในพื้นที่เขตจตุจักร จำนวน 1 จุด ได้แก่
บริเวณถนนกำแพงเพชร ตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้ามิกซ์จตุจักรถึงทางเท้าลานจอดรถห้างเจเจมอลล์
Mostview
เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน
ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%
สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท
จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา
ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ