แม้ว่าชาวไทยจะมีพฤติกรรมชอบดูกีฬา แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้มหกรรมฟุตบอลยูโร 2020 ที่กำลังเกิดดูจะไม่คึกคัก กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในระบบเศรษฐกิจเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับรายการกีฬาอื่น ๆ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงฟุตบอลยูโร 2020 พบว่าภาพรวมของการใช้จ่ายไม่คึกคักเมื่อเปรียบเทียบกับฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้ โดยในครั้งนี้มียอดใช้จ่ายรวม 62,440 ล้านบาท ลดลง 20.3% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี

ปัจจัยที่ทำให้การใช้จ่ายไม่คึกคักเป็นผลมาจากแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนตั้งใจที่จะลดค่าใช้จ่ายในเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลยูโรลง โดยเม็ดเงินการใช้จ่ายที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่า 15,201 ล้านบาท ลดลง 15.1% ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของอาหาร และเครื่องดื่ม เพื่อสังสรรค์ รองลงมาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์รับสัญญาณ

ขณะที่การใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ (พนันบอล) มีวงเงิน 45,839 ล้านบาท ลดลง 22.3% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ทั้งนี้ นับเป็นการใช้จ่ายในช่วงมหกรรมฟุตบอลยูโรที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 15 ปี นับจากมีการสำรวจเมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นผลกระทบของการระบาดโควิด-19