นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมมาตรการเยียวยาผลกระทบจากประกาศ ศบค. ฉบับที่25 ในพื้นที่ 6 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบเยียวยาประชาชนกลุ่มก่อสร้าง , สถานบริการ , ร้านอาหาร , กลุ่มศิลปะ บันเทิงและสันทนาการ ซึ่งได้ลงทะเบียน กระทรวงการคลัง จำนวน 697,315 คน โดยเตรียมงบเยียวยาไว้ 7,500 ล้านบาท

ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวว่า มาตรการเยียวยาดังกล่าวในส่วนของประกันสังคม มีรายละเอียดดังนี้ ลูกจ้างประกันสังคมจะจ่ายในกรณีเหตุสุดวิสัย 50% ของฐานเงินเดือนให้กับลูกจ้าง แต่สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท เป็นเวลา 1 เดือน

ประกันสังคมจ่ายเงินเพิ่มเติมอีก 2,000 บาท/คน สำหรับลูกจ้างในระบบประกันสังคมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรวมเป็นเวลา 1 เดือน

ในส่วนของนายจ้าง ประกันสังคมจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประกอบการหรือนายจ้าง จำนวน 3000 บาท/หัวของจำนวนลูกจ้าง แต่ไม่เกิน 200 คน ซึ่งส่วนนี้ประกันสังคมจะจ่ายให้กับผู้ประกอบการ เป็นเวลา 1 เดือน

ขณะที่ ลูกจ้างและผู้ประกอบการนอกระบบประกันสังคม จะดำเนินการใน 2 เรื่อง คือ 1.กรณีที่ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม แต่ต้องการรับความช่วยเหลือ 3,000 บาท ให้ขึ้นทะเบียนเพื่อเข้าระบบประกันสังคม

2.ลูกจ้างนอกระบบประกันสังคม(เฉพาะคนไทย) เมื่อนายจ้างขึ้นทะเบียนประกันสังคมจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท แต่จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือกรณีสุดวิสัย 50%

อย่างไรก็ตามกรณีที่ผู้ประกอบการที่เข้าประกันสังคมไม่ได้ ให้ลงทะเบียนร้านค้าผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ตามประเภทของกิจการ เพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา 3,000 บาท ในการลงทะเบียนร้านค้า และรับสิทธิ์ในโครงการต่างๆของรัฐบาลด้วย

ในส่วนของโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 ยังคงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยมีกำหนดเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.64