หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของรูปแบบการทำการตลาด Push คือจะทำอย่างไรให้เข้าประชิดตัวผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถเคลื่อนที่อย่าง มินิทรัค ดังจะเห็นได้จากการปรับตัวของหลายแบรนด์ดัง ที่ก็ต่างใช้โมเดลนี้ มาปรับใช้กับธุรกิจ โดยใช้ความสะดวกสบายในการเข้าถึงการซื้อเป็นตัวชูโรง เพื่อให้สามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
.
เมื่อแลนด์สเคปของการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไปจากโรคระบาด ส่งผลให้ธุรกิจใหญ่น้อยต้องปรับตัวตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และแทบจะมีปัญหาใหม่เข้ามาท้าทายแบรนด์ต่างๆอยู่เนืองๆ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจที่อยู่ในห้าง ซึ่งในอดีต ทำเลที่อยู่ในพื้นที่อย่างห้างสรรพสินค้า นับว่าเป็นแต้มต่อสำหรับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก
.
แต่เมื่อเกิดโรคระบาด ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โควิดกลายเป็นตัวแปรอย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเดินทางออกจากบ้านเพื่อมาจับจ่ายซื้อสินค้าด้วยความถี่ที่ลดลง การที่จะรักษาการเติบโตของยอดขายให้มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งแต่ละเจ้าก็ได้ใช้โอกาสจากวิกฤตินี้ นำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง ลองมาดูกันว่า พวกเขาปรับตัวทำอย่างไรกันบ้าง
.

.

.

.

รถเอไอเอสอุ่นใจ เจาะใจทุกชุมชน

AIS ก็เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการ ที่เลือกขยายช่องทางให้บริการลูกค้าผ่านพื้นที่นอกห้างสรรพสินค้าเพื่อลดผลกระทบจากการปิดห้าง โดยล่าสุดมีการเปิดตัว รถเอไอเอสอุ่นใจ จำนวน 30 คัน เพื่อขับให้บริการลูกค้า โดยได้เริ่มให้บริการตั้งแต่เมื่อวาน (23 ส.ค.) เป็นต้นไป

ซึ่งหากห้างสรรพสินค้าสามารถกลับมาเปิดได้ตามปกติ AIS ก็จะพิจารณาพฤติกรรมและความต้องการใช้งานของลูกค้าอีกครั้ง ว่าจะเปิดให้บริการ 2 ช่องทางใหม่นอกห้างต่อไป ด้วยความสะดวกสบายนี้ ไม่แน่ว่าโมเดลแบบรถเคลื่อนที่ อาจจะเข้าไปอยู่ในสายงานบริการอย่างจริงจังก็เป็นได้

โดยขณะนี้ รถเอไอเอสอุ่นใจ ในช่วงแรกจะให้บริการขายซิมและขายมือถือ และอนาคตจะขยายเพื่อรองรับบริการอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิเช่น เปลี่ยนซิมการ์ด ย้ายค่าย เปลี่ยนโปรโมชัน เปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งใบแจ้งค่าบริการ ขายมือถือ ขายซิม เพื่อทำให้แบรนด์มีช่องทางให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปและกลุ่มองค์กร ทั้งการชำระค่าบริการ ชำระค่าน้ำค่าไฟ

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ช็อปบริการด้านสื่อสารของผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามนโยบายของภาครัฐ

ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับบริการด้านสื่อสาร ที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของทุกคนที่ต้องทำงาน หรือ เรียนที่บ้าน รวมถึงการบริหารจัดการด้านระบบสื่อสารของหน่วยงานต่างๆ อย่างไม่ขัดต่อนโยบายของภาครัฐ

เอไอเอส จึงร่วมมือ กับร้านเอไอเอส เทเลวิซ ในแต่ละพื้นที่ เปิดตัวร้านเอไอเอส อุ่นใจช็อป ที่กระจายตัวอยู่ในชุมชนต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่หลักแล้วมากกว่า 100 แห่ง รวมถึงรถเอไอเอสอุ่นใจ มากกว่า 30 คัน ที่พร้อมตระเวนวิ่งให้บริการลูกค้าและประชาชน อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

.

.

.

.

NCA Food Delivery

เรียกว่าสร้างเสียงฮือฮาไม่น้อย สำหรับการปรับตัวต่อยอดธุรกิจเดลิเวอรี่ใหม่ของนครชัยแอร์ ที่ก็นับได้ว่าได้รับผลกระทบจากโควิดไปเต็มๆ เนื่องมาจากธุรกิจแต่เดิมต้องอยู่บนฐานของลูกค้าที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัด

โดยในครั้งนี้ได้ลงมาจับตลาดเดลิเวอรี่ในชื่อ “NCA Food Delivery” บริการสั่งอาหารข้ามจังหวัดผ่านช่องทางออนไลน์ มาพร้อมคอนเซปต์จัดส่งถึงบ้านใน 1 วัน ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งของอร่อยจากหลากหลายจังหวัดในเส้นทางที่รถนครชัยแอร์ให้บริการ

โดยลูกค้าสามารถเลือกจากเมนูร้านค้าที่มี หรือสั่งอาหารร้านที่ลูกค้าต้องการได้โดยตรงผ่านทางแชต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไม่ต้องโหลดแอพฯ แค่แชตมาบอกเรา” พนักงานรับออร์เดอร์จะทำการติดต่อร้านค้าและบริการจัดส่งลูกค้าถึงบ้าน ในวันถัดไปด้วยบริการส่งพัสดุด่วน NCA Express ของนครชัยแอร์ ที่มีระบบเช็กสถานะการส่งแบบเดลิเวอรี่ สามารถสั่งอาหารผ่านช่องทางแชทได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานกรรมการ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวว่า ในยุควิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการเดินรถ นครชัยแอร์หยุดให้บริการเดินรถชั่วคราวตามคำสั่งรัฐบาล บริษัทฯ ปรับตัวช่วงวิกฤตด้วยการขยายธุรกิจด้านการขนส่งครอบคลุมการให้บริการแบบเดลิเวอรี่ ด้วยบริการส่งพัสดุด่วนของนครชัยแอร์ (NCA Express), บริการสั่งอาหารข้ามจังหวัด (NCA Food Delivery) และธุรกิจร้านอาหารเดลิเวอรี่ “บ้านสวนคิทเช่น” ซึ่งปัจจุบัน ช่วงสถานการณ์ COVID-19 บริษัทฯ เปิดให้บริการส่งพัสดุด่วนข้ามจังหวัด (NCA Express) ทั้งหมด 42 สาขา ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก

ทั้งนี้ พัสดุด่วน (NCA Express) จากต่างจังหวัด มายังกรุงเทพฯ สามารถเลือกใช้บริการ “ส่งพัสดุถึงมือ” ไปยังผู้รับ ในกรุงเทพฯ 50 เขต และนนทบุรี 4 เขต ซึ่งจะถูกส่งถึงมือผู้รับในวันถัดไป (Next Day) จากสถิติการให้บริการพบว่า ยอดส่งพัสดุถึงมือเติบโตจากเดิมกว่า 50% โดยผู้ใช้บริการนิยมรับ-ส่งประเภทอาหาร ผลไม้หรือของสด, อุปกรณเครื่องมือแพทย์ และต้นไม้ บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนด

.

.

.

.

B2S Mini Truck

B2S (บีทูเอส) ส่งรถ Mini Truck ประจำจุดในกรุงเทพฯ แม้จะไม่ใช่การปรับตัวอย่างกระทันหัน เพราะ B2S Mini Truck นั้น เริ่มเปิดตัวคันแรกมาตั้งแต่ปี 2561 จุดประสงค์เดิมคือจะเป็นรถขายเครื่องเขียนเจาะตลาดสถาบันการศึกษา และพื้นที่ใกล้กับที่ทำงานของพนักงานออฟฟิต

แต่ในสถานการณ์แบบนี้นับเป็นการปรับตัวจากสิ่งที่ตนเองมีอยู่แล้ว เพื่อแก้เกมส์การตลาดได้อย่างน่าสนใจทีเดียว เพราะด้วยตัวธุรกิจที่เป็นร้านหนังสือและอุปกรณ์เครื่องเขียนที่แต่เดิมก็เรียกผู้บริโภคเข้าไปในร้านยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเพิ่มช่องทางขายให้ตรงจุด ตรงสถานที่ ด้วยโมเดลรถเคลื่อนที่แบบนี้ ก็ส่งผลต่อยอดขายและการตัดสินใจซื้อจากลูกค้าได้มากโข ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นหากจำเป็นต้องซื้อหาสินค้าด่วน

ในร้านแบบ Mini Truck มีสินค้าสารพัดรายการ ตั้งแต่กลุ่มเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน เช่น ปากกา โพสต์อิท กรรไกร กลุ่มของใช้ในบ้าน เช่น ทิชชู่ สก็อตไบรท์ หน้ากากอนามัย จนถึงขนมขบเคี้ยวก็มีขายเหมือนที่ร้านในห้าง ขณะนี้มีทั้งหมด 3 คันจอดประจำการ 3 จุด ได้แก่

- Pearl Bangkok อารีย์

จอดวันที่ 1 ส.ค. 64 – 31 ส.ค. 64 เวลา 10.00-19.00 น.

- ตึกออฟฟิศเมท สิรินธร

จอดวันที่ 1 ส.ค. 64 – 31 ส.ค. 64 เวลา 10.00-19.00 น.

- ปั๊มบางจาก กาญจนาภิเษก กม.41 MRT คลองบางไผ่

จอดวันที่ 16 ส.ค. 64 – 8 ก.ย. 64 เวลา 09.00-18.00 น.

.

จะเห็นได้ว่า แม้ธุรกิจน้อยใหญ่จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ไปพร้อมๆกัน แต่ในวิกฤติเราก็มักจะเห็นโมเดลทางออกสำหรับทางรอดของแต่ละแบรนด์ที่แตกต่างกันออกไป

และการตลาดแบบการ Push เพื่อรุกคืบเข้าประชิดหาผู้บริโภค ก็ยังนับว่าเป็นกลเม็ดที่ยังคงสามารถปรับใช้ได้ในภาวะแบบนี้ ดังจะเห็นได้จากแบรนด์ดังที่กล่าวข้างต้น รวมไปถึงอีกหลายธุรกิจ หลายเซกเม้นท์ ที่ใช้การปรับกลยุทธ์ด้วยการสร้างร้านค้าเคลื่อนที่ในลักษณะของรถ “มินิ ทรัค” ที่ขับเข้าไปจอดในโลเคชั่นสำคัญๆ เพื่อเรียกความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย

หลายครั้งที่การตัดสินใจซื้อของลูกค้าจะเป็นลักษณะของ “Impulse Buying” ที่บางครั้งจะซื้อโดยไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า แต่เป็นการซื้อเพราะถูกกระตุ้น จากสิ่งของ เครื่องใช้ หรืออาหารที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า

หลังจากนี้ เราคงจะได้เห็นการทยอยส่งรถมินิ ทรัค ของแบรนด์ต่างๆ ที่ยังคงมองว่าโมเดลรถเคลื่อนที่ สามารถตอบโจทย์สินค้าของเขาที่มีต่อผู้บริโภคได้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการใช้สินค้า และที่สำคัญ เพื่อหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจของตนเองยังเดินหน้าต่อไปได้ ไม่สะดุดหยุดนิ่งนั่นเอง