ความคืบหน้าต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการเปิดเผยถึง “การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด” พร้อมกับการตั้ง “นครพนมโมเดล” ต้นแบบการเชื่อมโยงกัญชาทางการแพทย์ กับการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกกัญชา และผู้ประกอบการที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชา โดยไม่ติดต่อข้อกฎหมาย

สำหรับเรื่องการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ตามร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดนั้น รัฐสภาเห็นชอบแล้ว และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆนี้ หรืออาจเป็นประมาณต้นปี 2565

เรื่องของการปลดล็อกดังกล่าว นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ร่างประมวลกฎหมายใหม่นี้ มีนัยของมาตรา 29 ที่ไม่ได้กำหนดให้ “กัญชา” เป็นยาเสพติดประเภทใดประเภทหนึ่ง ใน 5 ประเภทอย่างชัดเจน

โดยกำหนดให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) มีอำนาจประกาศกำหนดระบุชื่อยาเสพติดให้โทษว่า ยาเสพติดให้โทษใด อยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่งใน 5 ประเภทดังกล่าวได้

ดังนั้นตามความเห็นของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข มีความเห็นว่าควรมีการแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 โดยกำหนดให้กัญชา หมายถึงแค่สารเตตราไฮโตรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) ที่อยู่ในช่อดอกของกัญชา ซึ่งมีปริมาณมากกว่าร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก ตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลกให้เป็นยาเสพติดประเภท 5 เท่านั้น

หากมีการแก้กฎหมายดังกล่าว ที่ยกเว้นไว้เฉพาะส่วนของช่อดอกที่มี สาร THC เกินกว่าร้อยละ 0.2 จะทำให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อส่งออก และยังเป็นการปลดล็อกกัญชาที่สมบูรณ์ซึ่งจะสามารถทำให้เกษตรกรสามารถปลูกกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายจริงๆ เสียที