นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลที่มีขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเชื้อโควิด สายพันธุ์โอมิครอน ในแง่ความรุนแรงที่ทำให้นอน รพ. และเสียชีวิต น้อยกว่าเดลต้าครึ่งหนึ่ง ส่วนอัตราการติดเร็วกว่าเดลต้าในกรณีคนที่ไม่มีวัคซีน แต่หากเป็นคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว กลับไม่ได้เร็วเท่าที่คาดการณ์ จึงให้ทุกพื้นที่เร่งเรื่องการฉีดวัคซีนตามสูตร

ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่ไทยพบ 205 ราย กรมการแพทย์ได้ติดตามและศึกษารายละเอียดพร้อมจะนำข้อมูลมาเปิดเผยในวันจันทร์หน้า ส่วนกรณีคลัสเตอร์โอมิครอนที่ จ.กาฬสินธุ์ เป็นตัวอย่างว่าการเข้ามาถึงไทยตรวจเชื้อแล้วผลไม่พบ ใช่ว่าจะไม่ติด เพียงแต่อาจตรวจในช่วงเวลาที่เชื้อยังน้อย ดังนั้นคนที่มาจากต่างประเทศอาจติดเชื้อได้

เบื้องต้นจึงได้สั่งการให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังขอให้ปฏิบัติตัวป้องกันตัวขั้นสูงสุดตลอดเวลา ยกการ์ดป้องกันเหมือนที่เคยทำกันมา คนที่เพิ่งมาจากต่างประเทศมาถึงอย่าเพิ่งรีบไปพบญาติ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งอาจจะเกิดความเสียหายได้

ด้าน นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้รับข้อสั่งการมาจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เตรียมทบทวนการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด เตรียมระบบรักษาที่บ้าน Home Isolation (HI) การรักษาในชุมชน Community Isolation (CI)

ซึ่งตอนนี้ใช้ไปเพียง 30,000 เตียง จากทั้งหมดกว่า 200,000 เตียง ที่พร้อมรอรับผู้ป่วย  ในกรณีพบผู้ป่วยเพิ่มก็ให้ปรับมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ณ ตอนนั้น