ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะเป็นฤดูกาลการขึ้นราคาสินค้าไม่เว้นแม้กระทั่ง Louis Vuitton แบรนด์แฟชั่นระดับท็อปของโลกที่ประกาศขึ้นราคาสินค้า หลังต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อ โดยการตัดสินใจครั้งนี้ของ Louis Vuitton จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเครื่องหนัง, เครื่องประดับ และน้ำหอม

Louis Vuitton แถลงการณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่า การปรับขึ้นราคาเป็นไปตามต้นทุนการเปลี่ยนแปลงด้านการผลิต, วัตถุดิบ และการขนส่ง ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อ

แบรนด์หรูยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Louis Vuitton ได้ร่วมกับแบรนด์แฟชั่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Hermès และ Chanel ปรับขึ้นราคาสินค้าตั้งแต่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพื่อรักษากำไรจากอัตราเงินเฟ้อ โดยในปี 2020 โควิด-19 ส่งผลกระทบให้บริษัทต้องหยุดการผลิต จึงเกิดความล่าช้าไปทั่วโลก และทำลายห่วงโซ่อุปทานแบบไม่เคยปรากฏมาก่อน

ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคต้องหยุดอยู่กับ, เก็บเงินไว้ใช้ในเรื่องที่จำเป็น จากปกติที่ใช้จ่ายไปกับเรื่องเดินทาง หรือซื้อสินค้าแบรนด์เนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนซื้อสินค้าหรูไว้เก็งกำไรระยะยาว

ตามรายงานเมื่อปี 2021 พบว่า LVMH มีรายได้ 71.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2020 โดยแผนกแฟชั่น และเครื่องหนังจากแบรนด์ Louis Vuitton, includes Dior, Fendi, Celine และ Loewe ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม Bernard Arnault ประธานและซีอีโอ กล่าวว่าแบรนด์หรูควรตระหนักถึงขีดจำกัด โดยความต้องการสินค้าหรูยังคงแข็งแกร่งในปีนี้ แต่ต้องระวังเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งเราต้องมีเหตุผลในการขึ้นราคาสินค้า

ที่มา: forbes