ใครกำลังมองหาการลงทุนแฟรนไชส์เครื่องดื่มรูปแบบใหม่ ๆ ที่ทั้งช่วยดับร้อน ขายง่าย ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย แนะนำให้รู้จัก “น้ำอ้อยไร่ไม่จน” ธุรกิจที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรม ทั้งยังเต็มไปด้วยการส่งมอบความยั่งยืนจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ

คุณปุ๋ม ปภัสราภรณ์ เหรียญทอง เจ้าของบริษัท น้ำอ้อยไร่ไม่จน จำกัด เล่าว่า ธุรกิจน้ำอ้อยไร่ไม่จน คือผู้พัฒนาน้ำอ้อยรายแรกของประเทศไทย ที่นำน้ำอ้อยสดมาผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น แต่ยังคงรสชาติใกล้เคียงตามธรรมชาติดั้งเดิมมากที่สุด ปัจจุบันทำธุรกิจมานานกว่า 19 ปี กับการขยายแฟรนไชส์ไปกว่า 40 สาขา ซึ่งแฟรนไชส์น้ำอ้อยไร่ไม่จน สาขาแรกเปิดมาเมื่อ 19 ปีก่อน ตั้งอยู่ที่บิ๊กซีนครปฐม

โดยตนเองเป็นรุ่น 2 ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจจากคุณพ่อ ซึ่งเป็นเกษตรกรปลูกอ้อยอยู่แล้ว จากอดีตทางครอบครัวได้ปลูกอ้อยเพื่อส่งให้โรงงานน้ำตาล แต่ด้วยรายรับและรายจ่ายไม่สมดุลกัน เนื่องจากกว่าจะได้เงินจากยอดขายอ้อยมาหนึ่งก้อน เราต้องรอให้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวที่ทางโรงงานน้ำตาลเปิดรับ เมื่อขายเสร็จต้องติดอยู่ในวังวนการกู้ยืมเงินมาทำไร่อ้อยต่อ คุณพ่อจึงแสวงหาพันธุ์อ้อยใหม่ ๆ มาเพาะปลูกและแปรรูปขายเพื่อเติมเต็มรายได้ให้สามารถกลับมาจุนเจือครอบครัว เราจึงเริ่มต้นจากการเปิดท้ายรถขายน้ำอ้อยสดตามจุดต่าง ๆ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าของอ้อยได้มากขึ้น 6-10 เท่าตัว ทั้งลูกค้าให้การตอบรับดีมีคนสนใจรับไปขาย ทำให้ธุรกิจเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น จึงพัฒนาต่อยอดเรื่อยมาจนกลายเป็นบริษัท น้ำอ้อยไร่ไม่จน จำกัด

ขณะตนเองเข้ามาสานต่อกิจการ อีกหนึ่งปัจจัยในการขับเคลื่อนธุรกิจครั้งสำคัญ คือการเข้าไปขอรับคำปรึกษาจากหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน พร้อมนำเทคโนโลยียืดอายุน้ำอ้อย ซึ่งคล้ายกับกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า 100 องศา แบบนมพาสเจอร์ไรซ์ ทำให้จากเดิมที่เก็บรักษาได้ 2 วัน ก็กลายมาเป็นเก็บรักษาได้นานถึง 2 สัปดาห์ พร้อมลงทุนสร้างแบรนด์ใหม่ เช่น ออกแบบแพ็กเกจจิ้งด้วยแรงบันดาลใจจากปล้องอ้อย จนคว้ารางวัลการประกวดออกแบบระดับโลกจากประเทศเยอรมัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังขยายตลาดไปยัง 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เจาะตลาดคู่ค้าแฟรนไชส์ภายในประเทศ กลุ่มที่ 2 ขยายผลิตภัณฑ์น้ำอ้อยพร้อมดื่มไปยังคู่ค้าโมเดิร์นเทรด เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น โลตัส บิ๊กซี ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ 3 จะเน้นตลาดส่งออกไปต่างประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย อเมริกา และล่าสุดคือจีน

นอกจากนี้ ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม ด้วยการแจกจ่ายพันธุ์อ้อยที่ให้สีสวย กลิ่นหอม หวานกำลังดี อย่างพันธุ์สุพรรณบุรี 50 จากศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี กรมวิชาการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรในจังหวัดราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี เพื่อนำไปทดลองเพาะปลูกแล้วนำผลผลิตมาขายให้กับทางแบรนด์ ทั้งยังช่วยรับประกันราคาให้สูงกว่าท้องตลาดทั่วไป จึงเกิดการพึ่งพากันในกลุ่มได้อย่างแข็งแรง ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายเกษตรกรลูกไร่ไม่ต่ำกว่า 50 ราย และวิสาหกิจชุมชนอีก 2 ราย ทำให้แฟรนไชส์น้ำอ้อยไร่ไม่จน สามารถควบคุมคุณภาพของอ้อย และราคาต้นทุนที่ไม่ผันผวนไปตามตลาด

จุดเด่นของแฟรนไชส์น้ำอ้อยไร่ไม่จน คือเป็นแฟรนไชส์เครื่องดื่มประเภทเดียวที่ไม่มีคู่แข่งทางในท้องตลาด เนื่องจากส่วนใหญ่มักเป็นธุรกิจชา-กาแฟ จึงเรียกว่าเป็นแฟรนไชส์น้ำอ้อยแบรนด์เดียวในประเทศไทยก็ว่าได้ ทั้งยังการันตีด้วยรางวัลมาตรฐานแฟรนไชส์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีความเป็นธรรมชาติ 100% ไม่แต่งสี แต่งกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสียหรือสารเคมีใด ๆ ตามหลักการผลิตสากลบนมาตรฐาน GMP/GHP และ HACCP รวมถึงมาตรฐานเกษตรปลอดภัย GAP

น้ำอ้อยไร่ไม่จนมีสินค้าให้เลือกดื่มหลากหลาย อาทิ น้ำอ้อยพาสเจอร์ไรซ์ วุ้นน้ำอ้อยพาสเจอร์ไรซ์ นมน้ำอ้อยพาสเจอร์ไรซ์ น้ำอ้อยผสมมะนาว น้ำอ้อยผสมเสาวรส และพรั้นซ์น้ำอ้อย ราคาขายปลีกเริ่มต้นแก้วละ 20-25 บาท เมื่อหักต้นทุนค่าวัตถุดิบและแพ็กเกจจิ้งแล้ว จะได้กำไรต่อแก้วไม่ต่ำกว่า 50% ระยะเวลาคืนทุนขึ้นอยู่กับทำเลเป็นหลัก แนะนำให้เปิดหน้าร้านค้าปลีกหรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งโดยเฉลี่ยใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน และขณะนี้แม้หลายธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่น้ำอ้อยไร่ไม่จนก็ยังทำยอดขายได้อย่างคงที่กว่าปีละ 20 ล้านบาท

การลงทุนแฟรนไชส์มีให้เลือกทั้งสิ้น 4 รูปแบบ ได้แก่

• รูปแบบที่ 1 Small Package ราคา 72,000 บาท ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีเงินลงทุนน้อย แต่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มาซื้อวัตถุดิบจากเราไปขายได้ โดยจะได้รับโถขนาดเล็กสำหรับใส่น้ำอ้อย 2 โถ และเลือกได้ 2 รสชาติ

• รูปแบบที่ 2 Full Package ราคา 129,000 บาท รูปแบบคีออส โดยจะได้รับป้ายแบรนด์ เครื่องกดน้ำอ้อยอัตโนมัติ และโถขนาดเล็กสำหรับใส่น้ำอ้อย 3 โถ เลือกได้ 3 รสชาติ

• รูปแบบที่ 3 Full Package Plus ราคา 139,000 บาท รูปแบบนี้จะได้รับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากทางแบรนด์ไปขายเสริมเพิ่มกำไร และรับเครื่องกดน้ำอ้อยอัตโนมัติและขนาดบูธที่ใหญ่ขึ้น พร้อมโถขนาดใหญ่สำหรับใส่น้ำอ้อย 3 โถ เลือกได้ 3 รสชาติ

• รูปแบบที่ 4 Juice Truck กรณีที่ผู้ลงทุนที่มีรถแล้วต้องการสร้างอาชีพกับน้ำอ้อยไร่ไม่จน จะใช้เงินลงทุนเพียง 350,000 บาท เท่านั้น

สิ่งที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมาถึงปัจจุบัน มองว่าคือความอดทน ซื่อสัตย์ จริงใจ ทั้งต่อตัวเอง คู่ค้า และผู้บริโภค ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ แนะนำให้เริ่มจากสิ่งใกล้ตัว สิ่งที่เราชอบ เพื่อที่จะได้มีแรงตื่นมาทำในทุก ๆ วัน สามารถเริ่มต้นทีละนิดและค่อย ๆ ก้าวไป อย่างตัวเองที่เข้ามาสานต่อธุรกิจน้ำอ้อยไร่ไม่จน เพราะเป็นสิ่งที่เราคลุกคลีมาตั้งแต่เกิด ตื่นมาก็ทำให้เรารู้สึกว่าอ้อยมีบุญคุณ เลี้ยงเราจนเติบโตและเรียบจบปริญญาได้ จึงต้องการตอบแทนพืชผลเกษตรของไทยให้เติบโตและเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น และเกิดความยั่งยืนมากที่สุดทั้งใน Supply Chain

ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ แต่ยังไม่มีเงินทุนหรือใครที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน ตอนนี้ทางธนาคารออมสิน เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มาเริ่มต้นธุรกิจกับแบรนด์ “น้ำอ้อยไร่ไม่จน” ได้ โดยสามารถติดต่อขอ “สินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ” เพื่อประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ สแกน QR CODE เพื่อลงทะเบียนขอสินเชื่อ วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ต้องขอขอบคุณ ธนาคารออมสิน ที่สนับสนุนให้คนไทยมีอาชีพ มีรายได้