สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจทรุดหนัก โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย. 65 ที่พุ่งสูง 9.4% เป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 40 ปี ซึ่งเรื่องที่ตามมาคงหนีไม่พ้นสินค้าราคาแพง

แน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ที่กำลังซื้ออาจลดน้อยลง และนำมาสู่การประเมินความเสี่ยงของธุรกิจว่าจะควรทำอย่างไรต่อไปดี

ตามรายงานของ The Times หนังสือพิมพ์ในสหราชอาณาจักร เผยว่า Starbucks กำลังทำงานร่วมกับที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาว่าควรจะขายธุรกิจหรือไม่ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอยู่ในสภาวะย่ำแย่ทำให้ยากต่อการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่อง และคาดว่าจะสูงถึง 11% ภายในปีนี้

ด้านธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ระบุว่าภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ คือราคาอาหารที่พุ่งสูง กลายเป็นสร้างวิกฤตเรื่องค่าครองชีพให้กับคนสหราชอาณาจักร

สำหรับ Starbucks เป็นอีกหนึ่งแบรนด์กาแฟยอดนิยม เมื่อลูกค้าเริ่มกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ โดยยอดขายของ Starbucks ในสหราชอาณาจักรสิ้นสุดวันที่ 3 เม.ย. พบว่าดีขึ้นอย่างมาก โดย Michael Conway ประธานกลุ่มพัฒนาและช่องทางระหว่างประเทศ กล่าวว่าการจราจรยังคงมุ่งหน้าเข้ามาที่ลอนดอน และเรากำลังเพิ่มบริการแบบไดรฟ์ทรู

ทั้งนี้ Starbucks ยังไม่มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งต้องมาติดตามว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

ที่มา: cnn, cnbc