เครือ Minor International ร่วมเป็นพันธมิตร สคช. ยอมรับพร้อมใช้คุณวุฒิวิชาชีพเพื่อพัฒนาพนักงาน ต่อยอดเพิ่มวุฒิ เลื่อนตำแหน่ง เปิดโอกาสคนทำมาหากิน

นายสุรพล พลอยสุข ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันฯ พร้อมด้วยนายพิริยพงศ์ แจ้งเจนเวทย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมทีมงาน ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารเครือบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MINOR) นำโดย นายอติวิท เติมลาภ Group Director, Education & Collaborations Development Minor International, MR. Janil Samson Group Director of Organization Capabilities Minor Hotels และนายปิติชัย เดชประเสริฐศรี Group Director of Talent Minor Food ถึงแนวทางที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สามารถร่วมกับเครือ MINOR ทั้งส่วน Minor Hotels กลุ่มโรงแรมในเครือกว่า 530 แห่ง, ส่วน Minor Food กลุ่มภัตตาคาร ร้านอาหาร และโรงงานผลิตอาหารกว่า 2,300 แห่ง และส่วน Minor Lifestyle ที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ต่างๆ และผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆ มีจุดจำหน่าย (Point of Sales) กระจายอยู่กว่า 300 จุด เพื่อให้การพัฒนากำลังแรงงานในกลุ่ม MINOR สามารถเปิดโอกาสให้พนักงานได้รับคุณวุฒิวิชาชีพจากกระบวนการพัฒนาโดยกลุ่ม MINOR ที่กระจายอยู่ใน 60 กว่าประเทศทั่วโลก พร้อมใช้กลไกกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) เพื่อเทียบโยงระดับคุณวุฒิวิชาชีพสู่คุณวุฒิการศึกษา เปิดโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพให้กำลังแรงงานด้วยคุณวุฒิวิชาชีพได้อีกด้วย

นายสุรพล ระบุว่า กลุ่ม MINOR ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักในด้านการลงทุนการประกอบกิจการโรงแรม ภัตตาคาร อาหารและเครื่องดื่ม การจัดจำหน่ายและผลิตสินค้า อาทิ SWENSENS, Pizza Company, Marriott, Four Seasons, bossini เป็นต้น มีกำลังแรงงานหลากหลายอาชีพในเครือ กว่า 64,000 คน กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลกนั้น หากเกิดการยอมรับนำคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้เพื่อการพัฒนากำลังแรงงานในสาขาต่างๆ ยอมรับผู้ที่ถือประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพเข้าทำงาน หรือแม้กระทั่งพร้อมพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนให้พนักงานที่ได้การรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อกำลังแรงงาน และเป็นอีกหนึ่งสถานประกอบการต้นแบบในการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศ เพราะการพัฒนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพและการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ มีจุดมุ่งหมายสำคัญในการยกระดับคุณภาพมาตรฐานของกำลังแรงงาน และยกระดับคุณวุฒิให้ ภายใต้แนวคิดดังกล่าวเป็นแนวทางในการรองรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต ทำให้กำลังแรงงานใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลาในโลกของการศึกษามากจนเกินไป เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ตัวกำลังแรงงานและครอบครัว

MR. Janil Samson บอกว่า กลุ่ม MINOR เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการยอมรับประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถของกำลังแรงงาน ซึ่งเห็นตัวอย่างจากต่างประเทศมาแล้ว และมองว่าเป็นเรื่องดีหากเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะสามารถนำไปเป็นกรอบเทียบเคียงกับคุณวุฒิทางการศึกษา และเปิดโอกาสสร้างการยอมรับในระดับอาเซียนด้วยนั้น ซึ่งกลุ่ม MINOR มองเห็นประโยชน์ในการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในการบริหารงานบุคคล ทั้งการคัดเลือกคนเข้าทำงาน การพัฒนาพนักงานในสายอาชีพต่างๆ ในเครือ การกำหนดค่าตอบแทน และความก้าวหน้าในสายงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพร้อมยอมรับคุณค่าของประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในการพัฒนาในกลุ่มของ MINOR โดยกลุ่ม MINOR ยังให้ความสนใจเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ที่พร้อมให้การรับรองคนในองค์กร และเปิดสาธารณะเพื่อให้คนนอกองค์กรสามารถเข้าทดสอบ ประเมินสมรรถนะของตัวเองได้ด้วยในอนาคต ซึ่งกลไกต่างๆ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้วางไว้ ทั้งกลไกการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในสถานประกอบการ การใช้มาตรฐานสากล ISO/IEC17024 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ การเชื่อมโยงกรอบคุณวุฒิวิชาชีพสู่กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) รวมถึงการผลักดันกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การเชื่อมโยงกับกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) นั้น จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะกลุ่ม MINOR ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกมีพนักงานจากกว่า 60 ประเทศ ทำธุรกิจในทั่วทุกมุมโลก ทั้งเอเซีย ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ เป็นต้น สามารถใช้กลไกที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพมีอยู่ในการเปิดโอกาสการพัฒนากำลังแรงงานได้ทั่วโลกบนระบบเดียวกัน ซึ่งจะได้มีการหารือกับ สคช. ถึงแนวทางการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ทั้งนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กำลังพัฒนาแนวทางการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการที่เป็นนายจ้างขนาดต่างๆ ให้สามารถนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้สนับสนุนการบริหารงานบุคคลในสถานประกอบการ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กำลังแรงงานที่อยู่ในโลกการทำงาน ขาดโอกาสทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาสมรรถนะการทำงานจากกระบวนการฝึกอบรม-สอนงาน-ประเมินการทำงานภายในสถานประกอบการ ให้ได้ใช้กลไกคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเปิดโอกาสการพัฒนาและสร้างความก้าวหน้าในอาชีพ โดยปัจจุบันได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีระบบการบริหารและพัฒนาบุคลากรที่เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในภาคส่วนต่างๆ ให้พนักงานสามารถได้รับคุณวุฒิวิชาชีพจากกระบวนการพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ เช่น บริษัท ออโต้ อัลลานแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด , กลุ่มน้ำตาลวังขนาย, บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยมีแผนที่จะสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถานประกอบการขนาดใหญ่เป็นต้นแบบการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในการพัฒนายกระดับกำลังแรงงานอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป