วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2567

วิเคราะห์เศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลก ต่อจากนี้จะเดินไปทิศทางไหน

by Smart SME, 23 กันยายน 2565

แน่นอนว่าเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจที่จะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเราผูกพันกับการส่งออก การที่โครงสร้างเศรษฐกิจการนำเข้าส่งออกของเรารวมถึงพลังงานมากกว่าร้อยละ 90 ก็ใช้จากต่างประเทศ จนถึงที่มาของแหล่งรายได้จากภาคบริการ ภาคท่องเที่ยว ซึ่งมีเกือบ 20 % ของรายได้ประชาชาติ

ซึ่งวิกฤตที่เข้ามาก็ทำให้เราได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยรวมแล้วเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยผูกพันกันอย่างมาก ถ้าพูดกันแบบภาษาไทย ๆ คือฟ้าหม่นหมอง เดาได้ยาก ควบคุมได้ยาก เพราะเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เกิดจากต่างประเทศมาโดยตลอด ผลกระทบตามมาของเศรษฐกิจไทยก็คือรายได้หดหาย ภาระหนี้สินก็เพิ่มมากขึ้น หลาย ๆ คน รายได้ก็ไม่มี โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว ภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมถึงคนงานหลาย ๆ แห่งที่ถูกปิด สืบเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นก็ไม่สามารถสู้กับตลาด หรือขายของได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือกระทบกับคนที่มีและไม่มีก็จะไม่เท่าเทียมกัน คนที่มีรายได้ประจำค่อนข้างต่ำ ค่าครองชีพ ค่าอาหารสูงขึ้น ราคาน้ำมันสูงขึ้น ค่าเดินทางสูงขึ้น ก็ทำให้ต้นทุนค่าครองชีพต่าง ๆ ก็ไม่พอที่จะอยู่รอดได้ ยิ่งบวกกับรายได้หดหายด้วยหนี้สินก็ยังมีอยู่ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ความทุกข์ระทมซึ่งเราเรียกว่าข้าวยากหมากแพง ก็จะเห็นได้ชัดในยุคเศรษฐกิจไทยยุคนี้

การทำมาหากิน การค้าขายในโลกใบนี้ก็ไม่เหมือนเดิม แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ พฤติกรรมผู้บริโภคนั้นมันมีการเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่จะแนะนำก็คือ ต้องมาดูว่ากลุ่มลูกค้าเรานั้นใครยังมีอำนาจซื้ออยู่ และสิ่งที่ทุกคนต้องระวังคือ ช่วงนี้ต้องดูแลรักษาสุขภาพ มีสุขภาพที่ดี เพราะฉะนั้นสินค้าทั้งหมดต้องปลอดภัย ต้องเสริมทำให้ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญต้องแตกต่างจากสินค้าคนอื่นอย่างชัดเจน

ผู้สูงอายุนั้นมีส่วนหนึ่งที่มีรายได้และการเก็บออมอยู่ในจำนวนหนึ่งก็สามารถที่จะมีอำนาจซื้อได้ และมีหลายทางเลือกก็คือกลุ่มเพศทางเลือก กลุ่มนี้มีอำนาจซื้อสูง มีรายได้สูง ก็จะสามารถจำแนกสินค้าที่มีความแตกต่างขายให้กลุ่มนี้ได้เหมือนกัน และอีกอันหนึ่งคือ ทุกคนก็สามารถเข้าถึงข้อมูล พยายามเรียกร้องมาตรฐานของสินค้าและการบริการที่ดี

การฟื้นตัวของสังคมตอนนี้ จะต้องแบ่งให้ชัดเจนว่ากลุ่มมีกับกลุ่มไม่มี เพราะว่ากลุ่มที่ไม่มีนั้นยังไม่สามารถฟื้นตัวได้และก็จะถดถอยอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนที่มีเป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อสูง มีเงินออม ไม่มีหนี้สิน เมื่อเศรษฐกิจพอจะปรับได้ กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่จะสามารถขยายได้ ธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากการทำคราวนี้ก็เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี บริการข้อมูล

จะเห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นเป็นในลักษณะที่คนเรียกว่าตัว K ก็ทำให้เศรษฐกิจนั้นจะมีความเหลื่อมล้ำ และแตกต่างกันมากขึ้น จึงเป็นคำอธิบายที่ดีต่อภาวะถดถอยของเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและเศรษฐกิจโลกมากขึ้น เศรษฐกิจแบบนี้เป็นสิ่งที่เราข้ามไม่ได้ว่าการกระทบของทุกคนทุกฝ่ายนั้น กระทบไม่เท่ากัน กลุ่มระดับล่างจะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มระดับบน ก็เห็นได้ชัดว่ากลุ่มที่มีรายได้สูง ได้รับผลกระทบน้อยสามารถใช้ชีวิตได้แบบปกติ แต่กลุ่มที่มีรายได้น้อยซึ่งเป็นกลุ่มส่วนใหญ่ก็จะแก้ปัญหาโดยการกู้ยืมเงิน แต่อย่างไรก็ตามก็จำเป็นที่จะต้องสร้างงานให้มั่นคง ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงเพราะว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะฉะนั้นต้องแสวงหาพฤติกรรมที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

อยากฝากไว้ว่าการสร้างกำลังซื้อเป็นเรื่องที่สำคัญถาวร อยากให้กำลังสำหรับคนที่เปลี่ยนงานใหม่ เปลี่ยนอาชีพใหม่ สร้างงานใหม่ ทำธุรกิจใหม่ ทุกคนต้องมีความหวัง ความหวังเท่านั้นที่จะสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้

ดร.มงคล ลีลาธรรม อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ SME D Bank และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารออมสิน ปัจจุบันเป็น ประธานกรรมการบริหาร สำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

 


Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line