พาณิชย์เผย 11 เดือนแรกปี 2565 มีต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย 530 ราย คิดเป็นเม็ดเงินลงทุน 112,466 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 5,008 คน

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่าในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศจำนวน 50 ราย คิดเป็นเม็ดเงินลงทุน 6,029 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 373 คน โดยธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ได้แก่
1.บริการติดตั้งและทดสอบ ซ่อมแซมบำรุงรักษา รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำและฝึกอบรมเกี่ยวกับสินค้าประเภทตู้ควบคุมแรงดันไฟฟ้า (Switchgear) และหม้อแปลงไฟฟ้า

2.บริการขยายระบบ ทดสอบ บำรุงรักษา และให้คำแนะนำสำหรับการดำเนินการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเกี่ยวกับระบบการจัดการสิทธิดิจิทัล ระบบการนำเสนอเนื้อหาสารสนเทศฯ สำหรับการขยายแพลตฟอร์มระบบการให้บริการรายการโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

3.บริการศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศด้วยระบบที่ทันสมัย

4.บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การปรับปรุงขั้นตอนการผลิตสินค้า การปรับปรุงและพัฒนาระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (Robotics and Automation System) และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง เป็นต้น

5.บริการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์แผ่นซับน้ำนม ผลิตภัณฑ์จุกนมเทียม จุกนม ขวดนม ถุงเก็บน้ำนมมารดา ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับมารดา เด็ก และทารก เป็นต้น

โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มาจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐฯ

หากดูในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.65) มีต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทยจำนวน 530 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 198 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 332 ราย คิดเป็นเม็ดเงินลงทุน 112,466 ล้านบาท เกิดการจ้างงานแรงงานไทย 5,008 คน

ทั้งนี้ ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 137 ราย คิดเป็นเงินลงทุน 39,000 ล้านบาท ตามมาด้วยสิงคโปร์ 85 ราย คิดเป็นเงินลงทุน 11,999 ล้านบาท, สหรัฐฯ 70 ราย คิดเป็นเงินลงทุน 3,343 ล้านบาท, ฮ่องกง 38 ราย คิดเป็นเงินลงทุน 8,451 ล้านบาท และจีน 25 ราย คิดเป็นเงินลงทุน 22,677 ล้านบาท