ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้น ทำให้ PepsiCo อาจปรับขึ้นราคาสินค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานการสัมภาษณ์ของนายปริญญา กิจจาธนพันธ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม ประจำภูมิภาคเอเชีย และประธานกรรมการบริหารการพาณิชย์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป๊ปซี่โค ที่ครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ว่าการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ทำให้บริษัทได้ขึ้นราคาไปก่อนหน้านี้แล้วทั่วภูมิภาค

“ความคิดริเริ่มเชิงโครงสร้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ลดผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ และการหยุดชะงักด้านโลจิสติกส์ บริษัทกำลังมองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ไม่มีน้ำตาล โดยเฉพาะตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย ซึ่งรวมทุกอย่างในสินค้าที่ไม่มีแคลอรีตั้งแต่เป๊ปซี่ไปจนถึงมิรันด้าโซดา” นายปริญญา กล่าว

สำหรับการปรับขึ้นราคาอีกครั้งของบริษัทมีเหตุผลหลักมาจากการที่ธุรกิจต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น นอกเหนือจาก PepsiCo แล้วยังมีโคล่า และแบรนด์อื่น ๆ เช่น โซดาเมาเทนดิว, ชาเย็นลิปตัน และเครื่องดื่มเกลือแร่เกเตอเรด ที่ปรับขึ้นราคาครั้งล่าสุดในกลุ่มผู้ผลิตอาหารในภูมิภาค และที่อื่น ๆ

ด้านแอนดรูว์ เดลิออส ศาสตราจารย์จากโรงเรียนธุรกิจของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวว่าการขึ้นราคาของ PepsiCo เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับอุตสาหกรรมที่มีอัตรากำไรจำกัด โดยการขึ้นราคาเพียงเล็กน้อยจะไม่ทำให้ผู้บริโภคลดลง เพราะอาหารประเภทเครื่องดื่ม และขนบขบเขี้ยวไม่ได้เป็นการใช้จ่ายตามดุลยพินิจ

“ผู้คนจะไม่เปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายในสินค้าเหล่านี้ตามการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่ผู้บริโภคจะทำเช่นนั้นเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของรสชาติ และความชอบ เช่น จากน้ำตาลเป็นน้ำ” แอนดรูว์ กล่าว

ที่มา: asia.nikkei