ธุรกิจร้านสะดวกซัก หรือธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญถูกจัดอันดับให้ธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567 จากการศึกษาของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดคาดอะไร หากดูด้วยสายตาในชีวิตประจำวันที่ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนจะเห็นร้านสะดวกซักเปิดให้บริการตามสถานที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ

เพราะอะไร? ร้านสะดวกซักถึงมาแรงในปี 2567

มูลค่าตลาดของธุรกิจร้านสะดวกซักถือว่าเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จากปี 2563 ที่มูลค่า 3,000 ล้านบาท มาปี 2564 มูลค่าทะยานไปถึง 7,000 ล้านบาท และปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท แน่นอนว่ามูลค่าตลาดไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอนกับโอกาสที่รออยู่ข้างหน้า

เช่นเดียวกับจำนวนสาขาที่จากปี 2563 ที่มี 1,000 แห่ง มาปี 2565 สาขามีจำนวนเพิ่มถึง 3,500 แห่ง เป็นนที่เรียบร้อย

สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซักโตขึ้นเรื่อย ๆ คงหนีไม่พ้นพฤติกรรมของผู้คนในยุคนี้ที่เน้นความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และไม่มีเวลามานั่งซักผ้า เนื่องจากกิจวัตรในแต่ละวันที่ค่อนข้างมากมาย อะไรที่ช่วยลดเวลาได้จึงเป็นเรื่องที่ควรทำ ซึ่งเครื่องซัก-อบผ้าแบบหยอดเหรียญสามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี โดยใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที ก็เสร็จสมบูรณ์ สามารถเข้ามาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อเครื่องซักผ้ามาใช้เองที่ดูไม่เหมาะกับพื้นที่อยู่อาศัยสักเท่าไหร่

ร้านสะดวกซักกับโอกาสที่รออยู่

ธุรกิจร้านสะดวกซักยังคงมีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปในอนาคตจากความต้องการของผู้บริโภค และเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจอยากลงทุนในธุรกิจประเภทนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นเสือนอนกินเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นธุรกิจที่เปิดให้บริการตลอดเวลา โดยปัจจุบันมีหลายแบรนด์เปิดให้ลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งแต่ละเจ้าก็งัดจุดเด่นของตัวเองออกมาแข่งขันเพื่อโน้มน้าวใจ ทั้ง ความพิเศษของเครื่องซัก-อบผ้า, โปรโมชัน, เทคโนโลยี, สิ่งอำนวยความสะดวกภายในร้าน, การบริหารจัดการ

อย่างไรก็ตาม หากใครคิดที่จะลงทุนเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ คือการซักผ้าที่สะอาด และการหาทำเลที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดไปจะไปรอดหรือไม่ ข้อแนะนำคือในรัศมี 1 กิโลเมตรต้องมีความหนาแน่นผู้คนจำนวน 300 คน ดังนั้น พื้นที่ตามชุมชน หมู่บ้าน มหาวิทยาลัย หอพัก คอนโด อพาร์ตเมนต์ จึงมีความเหมาะสม ยิ่งโลเคชันดีเท่าไหร่ ยิ่งคืนทุนไวเท่านั้น โดยเฉลี่ยร้านสะดวกซักจะคืนทุนประมาณ 2 ปี

นอกจากนี้ ในส่วนของรายละเอียดแฟรนไชส์การลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลให้ดี เพราะเครื่องซัก-อบผ้า นั้นรูปแบบจะไม่เหมือนกัน โดยมีทั้งเครื่องอุตสาหกรรม, เครื่องพาณิชย์ ซึ่งมีสมรรถนะ ระยะการใช้งาน และราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมว่าจะเลือกแบบไหน

อีกทั้ง ด้วยความธุรกิจร้านสะดวกซักใช้พนักงานค่อนข้างน้อย หรือแทบไม่มี เพราะเป็นรูปแบบที่ให้บริการตัวเองของลูกค้า จึงเป็นหน้าที่ของผู้ลงทุนที่ต้องหมั่นเช็กเครื่องซัก-อบผ้าให้มีความพร้อมอยู่เสมอ เปลี่ยนน้ำยาอยู่เป็นประจำ หากมีปัญหาควรแจ้งเจ้าของแฟรนไชส์ทันที เพื่อตรวจสอบ และแก้ไขอย่างทันท่วงที เพื่อกระทบต่อการใช้บริการของลูกค้าให้น้อยที่สุด

ร้านสะดวกซักถือว่าเป็นปัจจัย 4 ของคนในยุคนี้ โดยการซักผ้าทุกคนต้องทำกันอยู่แล้ว และการมีบริการที่ตอบโจทย์ ช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี้

ทั้งนี้ แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักมีราคาลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาท ไปจนถึง 3.5 ล้านบาท

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• เปิดมุมมองผู้บริหาร LAUNDRYBAR ธุรกิจร้านสะดวกซักจะไปต่ออย่างไรในอนาคต