นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงกรณีที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้จัดปรับการเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพ เช่น น้ำอัดลม, ชาเขียว, กาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง, นมเปรี้ยว, นมถั่วเหลือง และน้ำผลไม้ เป็นต้น ในอัตรา 20-25% ตามปริมาณความเข้มข้นของน้ำตาลว่า ตามกระบวนการแล้ว สปท.จะส่งเรื่องดังกล่าวให้รัฐบาลพิจารณา หลังจากนั้นจึงจะส่งเรื่องมาให้กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตดำเนินการพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไปทั้งนี้ ตามหลักการแล้ว หากกระทรวงการคลังได้รับเรื่องดังกล่าวก็จะต้องมาพิจารณาดูถึงข้อเสนอของ สปท.ทั้งหมดว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มีการเสนอให้จัดเก็บภาษีกับผลิตภัณฑ์ส่วนไหน ในอัตราเท่าไร หรือให้จัดเก็บเพิ่มขึ้นจากเดิมในอัตราเท่าไร ตอนนี้เรายังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว จึงยังไม่สามารถชี้แจงได้ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ก็มีหลักการและแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาอยู่แล้ว โดยมองว่าถ้าจะจัดเก็บภาษีตามข้อเสนอของ สปท.จริง ก็ต้องมาดูถึงความเหมาะสม และต้องดำเนินการโดยไม่ให้เกิดผลกระทบกับทุกฝ่าย และทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ส่วนตัวเห็นว่าอะไรที่ทำลายสุขภาพก็ควรที่จะต้องเสียภาษีอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็เป็นหลักการที่ทั่วโลกทำกันอยู่