สิ้นเดือนตุลาคมนี้ ธุรกรรมการโอนเงินต่างธนาคารของบุคคลธรรมดา หรือโอนเงินธนาคารเดียวกันข้ามจังหวัด ที่ตำ่กว่าห้าพันบาท จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 25 บาท หากคุณได้ลงทะเบียนเข้าใช้ระบบพร้อมเพย์ (หรือชื่อเดิม Any ID) ไม่เพียงเท่านี้ เบี้ยสวัสดิการจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยคนชรา เงินช่วยเหลือเกษตรกร และแม้การคืนภาษีประจำปี จากกรมสรรพาร ก็จะโอนส่งตรงไปยังประขาชนได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับเช็คที่อาจสูญหายหรือไม่ถึงผู้รับ และไม่ต้องยึดติดการเปิดบัญชีกับธนาคารของรัฐเพื่อรับโอนเงินจากรัฐ นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า บริการพร้อมเพย์ (PromptPay) เป็นบริการรับโอนเงินแบบใหม่ ที่มีการผูกบัญชีของผู้รับเงินโอนกับเลขที่บัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ผู้โอนเงินสามารถโอนเงินให้ผู้รับโดยไม่ต้องระบุธนาคารและเลขที่บัญชีของผู้รับโอน บริการดังกล่าว ช่วยเพิ่มความสะดวกกับประชาชน เนื่องจากผู้โอนไม่ต้องจำเลขที่บัญชี ในฝั่งของผู้รับโอนไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลบัญชีของตน และยังได้หลักฐานการโอนเงินในระบบชัดเจน และลดความเสี่ยงจากการพกพาเงินสด ธนาคารที่เข้าร่วมระบบพร้อมเพย์ ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ในไทยทั้ง 15 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตั้งแต่ 15 กรกฏาคมนี้ ทุกธนาคารพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อใช้บริการ โดยมีขั้นตอนการตรวจสอบตัวตนและความเป็นเจ้าของบัญชีของผู้ลงทะเบียน รวมทั้งตรวจสอบความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือ ในกรณีการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วย คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ ต้องเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากและเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือที่จะลงทะเบียน  โดยเลือกบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวัน เป็นบัญชีเดี่ยว (ไม่ใช่บัญชีร่วม) ที่จะใช้เป็นบัญชีหลักในการทำธุรกรรมโอนและรับโอน เพื่อนำมาผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือภายใต้บริการพร้อมเพย์ โดยบัญชีธนาคารที่นำมาลงทะเบียน 1 บัญชี จะมีหมายเลข หรือ ID เพื่อการผูกบัญชีได้สูงสุด 4 เบอร์ ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 1 เบอร์ และหมายเลขโทรศัพท์มือถืออีกไม่เกิน 3 เบอร์ ทั้งนี้ หมายเลข หรือ ID ที่นำมาผูกนั้นจะต้องไม่เคยผูกกับบัญชีใดมาก่อน นายปรีดี กล่าวต่อว่า หากผู้ลงทะเบียนจะเปลี่ยนธนาคารที่ผูก ID ไว้ ก็ยกเลิกการลงทะเบียนกับธนาคารเดิมและไปลงทะเบียนกับธนาคารใหม่ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงหมายเลขบัญชีหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนของโครงสร้างการคิดค่าธรรมเนียมพร้อมเพย์ เริ่มต้นตั้งแต่วงเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ ฟรีค่าธรรมเนียม วงเงินมากกว่า 5,000 – 30,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 2 บาทต่อรายการ วงเงินมากกว่า 30,000 – 100,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 5 บาทต่อรายการ และวงเงินมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 10 บาทต่อรายการ นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พร้อมเพย์ เป็นโครงการยุทธศาสตร์หนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment)  ที่จะลดการใช้เงินสดในสังคมไทยซึ่งมีต้นทุนสูง “หากไทยสามารถเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายการบริหารเงินสด และการพิมพ์ธนบัติ และเหรียญลงกว่าปีละเจ็ดหมื่นล้านบาท” ในระยะถัดไป ระบบพร้อมเพย์ จะเปิดรองรับการโอนเงินระหว่างนิติบุคคล และการโอนเงินของบุคลไปยังนิติบุคคลรวมถึงการรับชำระบิลค่าสาธารณูปโภคต่างๆ