กองทุนอ้อยฯ อนุมัติสินเชื่อ 1.5 หมื่นล้าน ชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ 1.6 แสนรายเตรียมรับเงินเพิ่มค่าอ้อยอีกตันละ 160 บาทหลังบอร์ดกองทุนอ้อยฯ อนุมัติกู้เงิน 1.5 หมื่นล้าน นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกองทุนอ้อยฯ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมามีมติอนุมัติให้สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กู้เงินผ่านธนาคารกรุงไทย 1.5 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4% เพื่อจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิต 2558/2559 เพิ่มเติมอีก 160 บาท/ตันอ้อย ให้กับชาวไร่อ้อย 1.6 แสนคน ขณะที่ในผลผลิตอ้อย ฤดูการผลิต 2558/2559 มีอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 94 ล้านตันอ้อย ทั้งนี้ เมื่อรวมเงินเพิ่มค่าอ้อยขั้นต้นเพิ่มเติมกับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต 2558/2559 ที่ราคา 773 บาท/ตัน อ้อยในเขต 5 จ.สุพรรณบุรี และราคา 808 บาท/ตันอ้อย ในพื้นที่เขตอื่นๆ ที่เหลือ 8 เขต จะทำให้ชาวไร่อ้อยส่วนใหญ่ได้ เงินจากการขายอ้อยอย่างน้อย 968 บาท/ตัน ซึ่งการจ่ายเงินดังกล่าวจะเริ่มกลางเดือน ก.ค. สำหรับแผนการชาระหนี้เงินกู้ กท. กำหนดไว้ว่าจะเริ่มชาระเงินได้ตั้งแต่กลางปี 2560 รวม 24 งวด เพราะปัจจุบันยังต้องชาระหนี้เก่าจากการกู้เงินเพิ่มค่า อ้อยอัตรา 160 บาท/ต้นอ้อย ของปีฤดูการผลิต 2557/2558 อีก 10 เดือน เดือนละ 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน กท.มีฐานะการเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้นายพสุ ระบุว่า ปัจจุบันราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกอยู่ระดับ 19 เซนต์/ปอนด์ และบริษัท อ้อยและน้ำตาลไทย (อนท.) สามารถทำราคาส่งออกน้ำตาลทรายกว่า 30% ได้ในราคาดี จึงคาดว่าราคาอ้อยขั้นปลายฤดูการผลิต 2558/2559 จะอยู่ที่ 860 บาท/ตันอ้อย สูงกว่าราคาขั้นต้น แต่ต้องหัก 25 บาท/ตันอ้อย ตามเงื่อนไขเรื่องการจ่ายเงินเพิ่ม 160 บาท/ตันอ้อย ทำให้คาดว่าชาวไร่อ้อยจะได้เงินจริงประมาณ 835 บาท/ตันอ้อย ในขณะที่กองทุนจะ มีรายได้เฉลี่ย 2,000 ล้านบาท ส่วนหนี้สะสมของกองทุนที่มีจำนวนมากนั้น รัฐบาลมีนโยบายให้ สอน.ต้องเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างน้ำตาลเพื่อให้อนาคตยุติการ กู้เงินเพิ่มค่าอ้อย นอกจากนี้ ที่ประชุมกองทุนยังอนุมัติการจ่ายเงินชดเชยให้ชาวไร่อ้อย 7,860 ล้านบาท ซึ่งการชดเชยดังกล่าวคำนวณจากส่วนต่าง 46 บาท/ตันอ้อย ของราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต 2557/2558 อยู่ที่ 900 บาท/ตันอ้อย ซึ่งมากกว่าราคาอ้อยขั้นปลายปีอยู่ที่ 854 บาท/ตันอ้อย