"มาสเตอร์การ์ด" ระบุความรู้การเงินไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ยเอเชีย มาสเตอร์การด์ เผนดัชนีวัดทักษะความรู้ทางการเงินล่าสุด ระบุว่าประเทศไทยมีระดับความรู้ทางการเงินสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเปรียบเที่ยบกับกลุ่มประเทศเอเชียทั้ง 17 ประเทศ ข้อมูลจากดัชนีวัดทักษะความรู้ทางการเงินล่าสุดของมาสเตอร์การด์แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านความสามารถในการจัเทำงบประมาณการออมเพื่อยามฉุกเฉิน และการรู้จักเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งดัชนีนี้สอดคล้องกับการประชุมเวที เศรษฐกิจโลกว่าด้วยอาเซียน ทั้งนี้ประเทศไทยมีคะแนนอยู่ในระดับเดียวกันกับประเทศมาเลเซีย จีน และ ศรีลังกาและยังอับดับสูงกว่า 9 ประเทศ ซึ่งในนี้รวมถึงประเทศพัฒนาแล้วอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นด้วย สำหรับพัฒนาการในด้านความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทางการเงินของประเทศในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่นั้น ถือว่าอยู่ในภาวะชะงักงัน โดยทั้งภูมิภาคมีคะแนนความรู้ทางการเงินตกลงนหนึ่งจุดมาอยู่ที่ 64 คะแนน ซึ่งต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ได้เริ่มมีการทำสำราจมาใน พ.ศ.2553 ในภาพรวม เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีคะแนนไม่แตกต่างไปจากเดิม ในขณะที่คะแนนของกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหญ่นั้นลดลงมาที่สุด โดยประเทศที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ได้แก่ เวียดนาม ที่มี 58 คะแนน ลดลง 7 จุด พม่า          60 คะแนน ลดลง 6 จุด ฟิลิปปินส์      62 คะแนน ลดลง 4 จุด มาเลเซีย      67 คะแนน ลดลง 2 จุด และอินเดีย    60 คะแนน ลดลง 2 จุด มิสเตอร์โทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจำไทยและพม่ามาสเตอร์การ์ด ให้ความเห็นว่า "ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะได้คะแนนลดลงเล็กน้อยในหลักทศนิยม แต่เป็นคะแนนค่อนข้างที่จะเสมอต้นเสมอปลาย โดยเมื่อเรียงลำตามลำดับแล้ว เราตามหลังเพียงแค่ประเทศสิงคโปร์ ไต้หวัน นิวซีแลนด์ ฮ่องกง และออสเตรเลียเท่านั้น ถือได้ว่าเราอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ซึ่งบางแห่งเป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยซ้ำ ขณะที่ไทยยังได้คะแนนเหนือกว่าคะแนนเฉลี่ยของภูมิภาคในหลายๆ ด้านแต่ยังจำเป็นต้องพัฒนาระดับความรู้ทางการเงินขึ้นไปอีกเพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไกลไปข้างหน้า