วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2567

จับตายุโรปใช้นโยบายการเงินแก้ BREXIT

by Smart SME, 11 กรกฎาคม 2559

จับตายุโรปใช้นโยบายการเงินแก้ BREXIT ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดได้รับปัจจัยบวกจากต่างประเทศหนุนตลาดฯ ในช่วงสั้น แนะจับตาธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสว่าจะปรับนโยบายทางการเงินอย่างไร นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST กล่าวถึง ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (12-15 ก.ค.) โดยระบุว่า ผลการเลือกตั้งในสภาสูงของญี่ปุ่น จะหนุนให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียดีขึ้น ต่อเนื่องจากคืนวันศุกร์ที่สหรัฐฯ มีการรายงานตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด โดยส่งผลบวกมาถึงตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ ขณะที่ประเด็นในเรื่องของ BRExit นั้นยังไม่มีการเพิ่มความกังวลให้กับนักลงทุนในเวลานี้ เพราะตลาดรอดูผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสว่า จะปรับนโยบายทางการเงินทั้ง ดอกเบี้ย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) เพื่อรองรับผลของ BRExit ในอนาคต หลังไม่มีการปรับนโยบายทางการเงินนี้มานานหลายปี ดังนั้นปัจจัยในต่างประเทศ จึงให้น้ำหนักไปในทางที่เป็นบวก ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดยังรับปัจจัยเดิมๆ เพราะขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาในตลาด ดังนั้นในช่วงนี้หุ้นในกลุ่มที่เติบโตจากเศรษฐกิจภายในประเทศ (Domestic Play) และกลุ่มที่เป็นการลงทุนของทั้งภาครัฐกับเอกชนยังเป็นกลุ่มนำตลาดต่อไป ขณะที่การเก็งกำไรงบไตรมาส 2 นั้นจะเป็นการเก็งเป็นรายตัวไป รวมถึงหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลกลางปีด้วย ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้มองว่าตลาดหุ้นอาจจะไม่เคลื่อนไหวไม่ดีเหมือนสัปดาห์ก่อน จึงแนะให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัวหรือเลือกขายกำไรบางส่วนในหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก มองกรอบว่าดัชนีหุ้นในสัปดาห์นี้ที่ 1,468-1,485 จุด

Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line