วันจันทร์, เมษายน 29, 2567

ดีเดย์ เม.ย. นี้ ปล่อยกู้กองทุนเอสเอ็มอี 20,000 ล้านบาท คิดดอก 1%ต่อปี

by Smart SME, 7 กุมภาพันธ์ 2560

กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท เตรียมเดินหน้า ต้นเดือน เม.ย. ปล่อยสินเชื่อดอกต่ำพิเศษ 1%ต่อปี วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย อนุมัติผ่านเอสเอ็มอีแบงก์ คาดผู้ประกอบการ 4,000 รายได้ประโยชน์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจจากระดับท้องถิ่น นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า  กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ( Local Economy) ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น คาดจะสามารถเริ่มต้นปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 1% ต่อปี  วงเงินสินเชื่อสูงสุดรายละไม่เกิน 40 ล้านบาท  ให้แก่เอสเอ็มอีทั่วประเทศได้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ประกอบการนำทุนดังกล่าวไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจ ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อจังหวัดละ 200 – 300 ล้านบาท มีเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อในโครงการนี้ ประมาณ 3,000-4,000 ราย  ซึ่งการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว จะดำเนินการโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ทั้งนี้  ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องผ่านการคัดสรรมาแล้วจากทางจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการเป็นประธาน ทำงานร่วมกับทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีอุตสาหกรรมจังหวัดเป็นเลขา มีเงื่อนไขในการคัดเลือก ต้องเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้ และทำธุรกิจกิจมาแล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 ปี  มีโอกาสเกิดเป็นหนี้เสียค่อนข้างต่ำ นายพสุ เผยด้วยว่า  กสอ.ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2564 ผลจากการพัฒนาเอสเอ็มอี ผ่านกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จะช่วยเพิ่มสัดส่วนจีดีพีเอสเอ็มอีให้ขึ้นไปอยู่ในระดับ 50% ของจีดีพีประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่  42-43% ของจีดีพีประเทศ

Mostview

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

สิงคโปร์ แจกเงินละ 8,000 บาท ให้ 1.1 ล้านครัวเรือนไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ประปา ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โลกร้อนทำให้หลายประเทศกลับมาตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรที่จะออกนโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

หาคำตอบ? เพราะอะไรลูกค้าถึงรำคาญการตั้งราคาของแบรนด์อาหารจานด่วน

เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดขึ้นราคาเมนูอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยอ้างปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนวัตถุดิบ, การขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

SmartSME Line