วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2567

นายกฯ ลั่นรัฐบาลพร้อมหนุนเอสเอ็มอีทุกด้าน

by Smart SME, 10 มีนาคม 2560

นายกฯ แนะเอสเอ็มอีเร่งปรับตัวเป็นสู่ยุค 4.0 เพิ่มขีดความสามารถเท่าทันโลกยุคใหม่ ย้ำรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือครบทุกด้าน วอนทุกภาคส่วนรวมพลังปฏิรูปเศรษฐกิจไทย พาหลุดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ชี้ปัญหาเอสเอ็มอีไทยขาดจิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้ประกอบการ และเข้าไม่ถึงแหล่งทุน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดงาน “SME Revolution:เส้นทางสายโอกาสเอสเอ็มอี4.0” ว่า  สิ่งสำคัญของผู้ประกอบการไทยในวันนี้  ต้องปรับตัวให้เท่าทันต่อโลก  รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำอย่าง  เพื่อพยายามแก้ไขปัญหาที่สะสมมา และวางกรอบแนวทางที่จะเดินต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างความสมดุล ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม  ซึ่งจะเกิดผลขึ้นได้จริง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน  ทั้งภาคราชการ เอกชน ผู้ประกอบการ ประชาชน และสื่อมวลชน

สำหรับการส่งเสริมเอสเอ็มอี เราต้องการปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ   ซึ่งเอสเอ็มอีจะเป็นกลไกสำคัญให้เศรษฐกิจไทยหลุดกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งประเทศไทยติดอยู่ตรงนี้มายาวนานมากแล้ว ดังนั้น วันนี้เราต้องคิดใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยมีความชัดเจนในการทำงานแบบนี้มาก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่มีความอึดอัดในการทำงาน เพราะฉะนั้นรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามช่วยเหลือทุกอย่าง เพื่อให้แนวทางปฏิรูปเอสเอ็มอีเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความได้เปรียบอยู่แล้ว ในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน  เชื่อมต่อกับได้นานาประเทศ เราต้องอาศัยความได้เปรียบตรงนี้เพื่อจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและเชื่อมโยงด้านต่างๆ นอกจากนั้น ยังมีความได้เปรียบเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม สามารถจะเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในทุกกลุ่ม ดังนั้น เมื่อมีโอกาสอยู่แล้ว   ต้องทำโอกาสให้เป็นโอกาส อย่าทำโอกาสให้กลายเป็นวิกฤต หรือทำวิกฤตให้กลายเป็นวิกฤตมากกว่าเดิม

พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญ  เอสเอ็มอีต้องรู้ตัวเองว่า กิจการอยู่ในกลุ่มใด ซึ่งรัฐบาลมีจัดกลุ่มธุรกิจในการช่วยเหลือพร้อมอยู่แล้ว ทั้งในด้านเงินทุน หรือหน่วยงานต่างๆ ที่จะดูแลได้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เติบโตส่งออกได้ หรือกลุ่มที่กำลังประสบปัญหา แต่ยังมีศักยภาพ  

ทั้งนี้ การสร้างเอสเอ็มอี ให้ก้าวสู่ยุค 4.0 โดยเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ต เทคโนโลยี  เครื่องจักร รวมใช้งานวิจัยและพัฒนา  จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ  สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการสนับสนุนเอสเอ็มอีให้ก้าวมาเป็นเอสเอ็มอียุค 4.0 ให้ได้ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง  ธุรกิจของไทย ยังมีทั้ง 1.0 , 2.0 , 3.0  ซึ่งรัฐบาลจะไม่ทิ้งทุกกลุ่ม แต่จะพาให้ก้าวไปพร้อมกัน  รวมถึง พยายามยกระดับในแต่ละกลุ่มให้มีขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้น

สำหรับปัญหาของเอสเอ็มอีไทย  คือ ขาดจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะภาคการเกษตร ไม่ตระหนักว่าการประกอบธุรกิจ มาเป็นเอสเอ็มอีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ  ส่วนใหญ่ยังติดอยู่กับการรับจ้าง หรือผลิตขั้นพื้นฐาน  ในที่สุด ไม่เกิดการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ หรือพัฒนาศักยภาพตัวเอง

เอสเอ็มอีในประเทศที่พัฒนาแล้ว ผู้ประกอบการจะพัฒนาจากผู้ผลิตไปสู่ผู้แปรรูป  สร้างกลไกทำน้อยแต่ได้มูลค่ามาก  ขณะที่เกษตรไทย กลับทำมากแต่ได้เงินน้อย  รัฐบาลจึงต้องคอยช่วยเหลือล่ำไป เงินจึงหมดไปกับเรื่องเหล่านี้มหาศาล ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน สร้างค่านิยมของการเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ให้มากยิ่งขึ้นนายกฯ ระบุ

 นอกจากนั้น เอสเอ็มอียังประสบปัญหาไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้  ส่วนหนึ่งเพราะขาดความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ ไม่มีการทำบัญชีที่ถูกต้องชัดเจน มีหลายบัญชี และขาดความรู้ในการทำธุรกิจ จนกลายเป็นหนี้สินขาดทุน  ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงินในระบบ  ซึ่งการให้เงินสินเชื่อต้องมีกติกา ถ้าทำผิดแล้วยังให้อีก เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ทำผิดพลาดมากขึ้นไปอีก อย่างที่เคยเป็นมา จนถ่วงความเจริญของภาคอื่นๆ ที่ยังต้องการงบประมาณเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการทางการเงินช่วยเหลือหลายประการ อย่างเช่นในงานนี้ มีการเปิดตัวกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ 20,000 ล้านบาท  และกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี  2,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินเอกชน ยากจะอนุมัติเงินทุนให้แก่เอสเอ็มอี เนื่องจากมีความอ่อนแอหลายด้าน ทั้งเป็นหนี้เสีย และขาดความสามารถในการชำระหนี้ ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการการเงินมาช่วยเหลือเพื่อประคับประคอง และหากทำได้ดี เกิดผลอย่างชัดเจน จะช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้สถาบันการเงินเอกชนกลับมาปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี

ด้านดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การจัดงาน “SME Revolution : เส้นทางโอกาสเอสเอ็มอี 4.0ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์    รัฐบาลมีวัตถุประสงค์จะกระจายความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนให้แก่เอสเอ็มอีผ่านการประสานงานอย่างบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีทั้งด้านการเงินควบคู่กับการให้ความรู้ เพื่อเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่เอสเอ็มอีและโอทอปให้สามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งทุกมิติ

ทั้งนี้ ในงานจะเปิดตัว 3 กองทุนที่จะช่วยเหลือเอสเอ็มอี วงเงินรวม 37,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ 20,000 ล้านบาท ซึ่งวางเป้าหมายช่วยเหลือสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ด้านการเงินรวม 2,000 ราย 2. กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) วงเงิน 2,000 ล้านบาทด้วย และ 3. สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (SME Transformation Loan) วงเงิน 15,000 ล้านบาท ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)


Mostview

คนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บสำหรับการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท

ภายในงาน KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ ซึ่งมีการพูดถึงปัญหาและคำแนะนำให้กับ Sandwich Generation ผู้แบกภาระการดูแลทั้งคนรุ่นก่อน และรุ่นหลังไว้ ในขณะที่เศรษฐกิจไม่เกื้อหนุนให้พวกเขาได้สบายขึ้น

กล้าพอไหม! Airbnb เปิดให้เข้าพักบ้านลอยฟ้า มีลูกโป่งกว่า 8,000 ใบ โยงติดอยู่บนหลังคา

หากอยากจะทำอะไรตื่นเต้นต้องมาทางนี้ เมื่อ Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักได้เปิดตัวโปรเจคต์ “Icon” เพื่อสร้างประสบการณ์พักผ่อนให้กับลูกค้า เปลี่ยนสิ่งที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ให้กลายเป็นความจริง

ซีพีออลล์ ทำรายได้ไตรมาส 1/2567 รวม 241,307 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 พบว่าบริษัทมีรายได้รวม 241,307 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท

6 วิธีสร้างแนวคิดอย่างยั่งยืนให้ธุรกิจของคุณ แถมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

การยึดมั่นในเรื่องของความยั่งยืนไม่ได้เป็นประโยชน์กับสภาพแวดล้อม และเศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังส่งผลเชิงบวกให้กับแบรนด์อีกด้วย ดังนั้น เรามาดูกลยุทธ์ทางธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่คนเป็นผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้ ผ่านวิธีการเหล่านี้

SmartSME Line