"สมคิด" ย้ำประเทศกลุ่ม CLMVT ต้องจับมือประสานพลังสร้างศักยภาพเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากคู่ค้าโลก ยาหอม สปป.ลาวโดดเด่นด้านรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติ แนะเติบโตทางเศรษฐกิจเหมาะสม  ประกาศพร้อมเดินเคียงข้างพัฒนาโดยไม่แข่งกันเอง

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “Lao-Thai strategic Partnership Forum” ในหัวข้อ "บทบาทและความสำคัญในความร่วมมือของภาคเอกชนไทย-ลาว ในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ"  ว่า  ไทยให้ความสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ มากกว่าประเทศมหาอำนาจ เพราะมีความสำคัญที่สุดท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน โดยกลุ่มประเทศ CLMVT จำเป็นต้องรักสามัคคีเพื่อความเจริญของเพื่อนบ้าน "ขอความไว้วางใจ ขอให้เชื่อถือรัฐบาลประยุทธ์ เดินทางมาด้วยเจตนาเป็นมิตร เพื่อสร้างมิติใหม่ของ CLMVT ร่วมกัน เพื่อเป็นหัวหอกฝังเพชร หากแยกกันพัฒนา จะยังเป็นประเทศเล็กในสายตาเวทีโลก หากร่วมมือกันแบ่งงาน เกื้อกูลร่วมกัน ความเจริญร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนศักราชใหม่ไทย-สปป.ลาว" รองนายกฯ กล่าว ดร.สมคิด กล่าวด้วยว่า  สปป.ลาว มีความโดดเด่นด้านอนุรักษ์วัฒนธรรม วัตถุดิบทางธรรมมาชาติให้มีความสมบูรณ์มายาวนานหลายปี นับว่าค่านิยมของตะวันออกมีมาอย่างยาวนานนับพันปี อยากให้รักษาสิ่งดีอย่าสูญหายไป เพราะเป็นเอกลักษณ์ของลาวอย่างแท้จริง และต้องการให้ สปป.ลาวก้าวพัฒนาไปในทิศทางเหมาะสม ท่ามกลางสภาวะการเงินตลาดโลกผันผวนทำนายลำบาก ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ CLMVT นับเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น แต่ศักยภาพของ CLMVT ยังไม่กลั่นออกมาได้อย่างเต็มที่ จึงต้องร่วมกันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นแรงงานคุณภาพ ประกาศในเวทีโลกพัฒนาในหลายด้าน การเดินทางมายัง สปป.ลาวครั้งนี้ ไทยพร้อมก้าวไปพร้อมกับ สปป.ลาว จึงมุ่งพัฒนาในหลายด้านโดยไม่ต้องแข่งกัน แต่หันมาร่วมมือกันจัดทำแผนระยะยาว 10 ปีร่วมกัน ทั้งด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาถนน โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการขจัดอุปสรรคทั้งการค้า การลงทุนร่วมกัน สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ได้มีรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของทั้งไทย และ สปป.ลาว ตลอดจนตัวแทนจากภาครัฐ เอกชนรายใหญ่ที่มีแผนมาลงทุนใน สปป.ลาว และเอสเอ็มอีทั้งของไทย และลาว ร่วมเข้าฟังด้วย