อย.4.0 ปรับระบบพิจารณาผลิตภัณฑ์เร็วขึ้น 20 %
by Smart SME,
28 สิงหาคม 2560
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลจากคำสั่งตามมาตรา 44 ทำให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาช่วยประเมินเอกสารทางวิชาการ และมีจำนวนผู้ตรวจสอบเอกสารเพิ่มขึ้น เกิดการลดขั้นตอนโดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วย นอกจากนี้ยังสามารถจ้างหน่วยงานภายนอกมาตรวจสถานประกอบการ ตลอดจนมีแหล่งเงินที่นอกเหนือจากเงินงบประมาณมาช่วย ทำให้กระบวนการพิจารณาอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งในกระบวนการพิจารณาอนุญาตของส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งทำให้งานคุ้มครองผู้บริโภคเกิดความคล่องตัวและเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากนี้การปรับระบบใหม่จะเกิดผลดีต่อผู้ประกอบการคือ ไม่มีการจำกัดคิวในการยื่นขออนุญาตทุกผลิตภัณฑ์ มีระบบให้คำปรึกษา ระบบการจัดเตรียมเอกสาร และตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารตาม Checklist ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและเกิดความถูกต้องในการเตรียมเอกสารเพิ่มขึ้น มีระบบตรวจสอบติดตามเรื่องที่ยื่นขออนุญาต มีการกำหนดเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งสามารถกำกับระยะเวลาการทำงานของทั้งเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การพิจารณาอนุญาตเป็นไปตาม กรอบเวลาที่กำหนด ที่สำคัญกระบวนการพิจารณาอนุญาตจะสั้นลงและมีความรวดเร็วมากขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 20 อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ เข้มแข็งตามคำสั่งมาตรา 44 จะทำให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองในการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
ด้าน นพ.วันชัย สัตยา วุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเสริมว่า อย.มีการพัฒนาระบบ e-Submission เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วในการพิจารณาอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยระบบคอมพิวเตอร์จะเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ผู้ประกอบการสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำ เพิ่มความสะดวกในการสรรค์สร้างธุรกิจและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการพัฒนาวิธีการ ชำระค่าใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Payment ผ่านธนาคารได้ทันที โดยเริ่มใช้ในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ อย. 4.0 ยังมีการปรับปรุงสถานที่ให้บริการในการขออนุญาตต่างๆ ให้มีความทันสมัยและตอบสนองต่อผู้ประกอบการในยุค 4.0 มากยิ่งขึ้น โดยการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทำหน้าที่ในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่เป็นนวัตกรรมอย่างครบวงจร ณ อาคาร 6 ชั้น 6 รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่อาคาร 6 ชั้น 5 ซึ่งเป็นตึกใหม่สำหรับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ ขอให้ผู้ประกอบการมั่นใจการดำเนินงานของ อย. ที่จะให้บริการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และโปร่งใส