นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า หลังจากไทยได้รับการปลดธงแดงจากไอเคโอ ทำให้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคึกคักมากขึ้น โดยช่วงเวลาที่ไม่คับคั่งคือ 02.00-05.00 น. เริ่มมีสายการบินขอรับจัดสรรตารางเวลาการบิน เพื่อใช้ปฏิบัติการบินเข้า-ออกสนามบินในช่วงเวลานี้มากขึ้น จากเดิมที่ช่วงเวลาดังกล่าวจะขายไม่ออก ไม่ค่อยมีสายการบินไหนมาขอบินเข้า-ออก อย่างไรก็ตาม สำหรับสายการบินที่ขอบินช่วงเวลานี้มากขึ้นส่วนใหญ่เป็นสายการบินที่เดินทางมาจากประเทศจีน ทำให้ปัจจุบันภาพรวมผู้โดยสารเติบโตขึ้น 12.7% โดยระหว่างประเทศเติบโตกว่า 20% บางวันสูงถึง 30% และภายในประเทศเติบโต 5% นายนิตินัยกล่าวว่า ยอมรับว่าช่วงที่ไทยโดนธงแดงและเจอปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ทอท.ต้องเผชิญกับวิกฤตเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง โดยเฉพาะทัวร์ศูนย์เหรียญจากจีน เมื่ออัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (โหลดแฟ็กเตอร์) น้อย สายการบินยอมแพ้ยกเลิกตารางบินไป แต่ยังโชคดีที่มีอินเดียและรัสเซียเข้ามาแทนที่ ทำให้ ทอท.ผ่านวิกฤตไปได้และมีความแข็งแรงมากขึ้น ปัจจุบันเมื่อมีการปลดธงแดงและไม่มีปัญหาหาทัวร์ศูนย์เหรียญแล้ว สายการบินที่เคยยกเลิกเที่ยวบินไปก็อยากกลับมาบินเหมือนเดิม แต่ไม่สามารถกลับมาได้แล้ว เพราะมีสายการบินอื่นมาลงแทนแล้ว และบางช่วงเวลาคับคั่ง ทำให้ต้องกลับมาในช่วงไม่คับคั่งแทน โดยปัจจุบันผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 1.8 แสนคนต่อวัน นายนิตินัยกล่าวว่า ขณะนี้ ทอท.พยายามแก้ปัญหาและบริหารจัดการสนามบินที่มีสล็อตหนาแน่น โดยเฉพาะสนามบินดอนเมืองเวลานี้มีตารางบินเต็มทุกช่วงเวลา ทำให้สายการบินต้องเปลี่ยนเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อีกทั้งต้องประสานกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ในการบริหารจัดการน่านฟ้า ซึ่งที่ผ่านมา บวท.ช่วยทำให้การจัดการจราจรทางอากาศด้านบนดีขึ้น ทางสนามบินดอนเมืองจึงคลายความหนาแน่นได้มากขึ้น ขณะเดียวกันสนามบินได้บริหารจัดการหลุมจอดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย