บทความจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส

ปกติแล้ววุฒิปริญญาตรีถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการหางานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ปัจจุบันจำนวนงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯกำลังเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าจำนวนผู้สมัคร สภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างหนักทำให้บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯจำเป็นต้องหันไปแสวง หาคนงานที่มีความเชี่ยวชาญแต่มีภูมิหลังด้านการศึกษาที่ไม่เป็นไปตามขนบธรรมเนียมเพื่อมาเติมช่องว่างให้เต็ม IBM, Intel และ GitHub เป็นหนึ่งในหลายบริษัทเทคโนโลยีที่กำลังแสวงหาแรงงานที่มาจากช่องทางการศึกษารูปแบบอื่นๆที่ไม่ใช่วุฒิปริญญาตรี เช่น นักเรียนมัธยมปลายที่อยู่ในโปรแกรมการถอดรหัส (coding programs) เป็นต้น กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานว่า เฉพาะในสหรัฐฯ ปัจจุบันมีงานที่เกี่ยวข้องกับภาคเทคโนโลยีเปิดรับสมัครมากกว่าห้าแสนตำแหน่งที่ยังหาคนงานไม่ได้ การศึกษาของ Code.org ระบุว่า ภายในปี 2020 งานด้านการเขียนโปรแกรมจำนวน 1 ล้านตำแหน่งจะหาคนทำไม่ได้ Ginni Rometty, CEO ของ IBM ให้สัมภาษณ์ว่า งานด้านเทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องใช้คนที่มีปริญญาเสมอไป อุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนรูปและสร้างงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญใหม่ๆที่เรียกว่าเป็น “new collar jobs” กำลังมีปัญหาในการหาคนงาน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ IBM ได้ประกาศในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่าได้ร่วมมือกับวิทยาลัยชุมชนทั่วสหรัฐฯในการเตรียมคนอเมริกันเพื่อเข้าสู่การจ้างงานที่เป็น “new collar career opportunities” และ IBM ตั้งใจจะจ้างงาน 6,000 ตำแหน่งภายในสิ้นปีนี้ โดยประมาณร้อยละ 15 ของตำแหน่งที่จะจ้างใหม่ไม่กำหนดว่าต้องมีปริญญาตรีแต่ต้องมีประสบการณ์โดยตรงที่มาจากการเข้าเรียนในชั้นเรียนฝึกอาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัครเข้าทำ เช่น คนที่ต้องการสมัครงานด้านออนไลน์อาจจะต้องเคยผ่านเข้า coding boot camp มาก่อน หนึ่งในสามของคนงานในสำนักงาน IBM หลายๆแห่งไม่มีวุฒิปริญญาตรีแต่คนงานเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญที่ได้รับมาจากการฝึกอบรมในสถาบันฝึกอบรมอาชีพ บริษัทเทคโนโลยีทั่วสหรัฐฯกำลังต้องการคนงานที่มีประสบการณ์ในงานที่จะทำในลักษณะนี้เช่นกัน ประสบการณ์ที่มาจากการลงมือทำจริงเป็นสิ่งที่บริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายต้องการและเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้สมัครงาน บริษัทต่างๆกำลังมองเห็นว่ามีหนทางหลากหลายในการหาแรงงานด้านเทคโนโลยีที่มีความพร้อมที่แตกต่างกัน