วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

เพิ่มทุนไอแบงก์ 1.6 หมื่นล้าน ให้ ก.คลังถือหุ้นใหญ่ 99.71%

by Smart SME, 4 กันยายน 2561

ทำเนียบฯ (4 ก.ย. 61) ครม.เห็นชอบนำเงินกองทุนแบงก์รัฐเพิ่มทุน ไอแบงก์ 1.6 หมื่นล้านบาท เร่งหาพันธมิตรเพิ่มทุน เจียดงบ  จำนวน 650 ล้านบาท พัฒนาฟินเทคของแบงก์รัฐรองรับการเงินสมัยใหม่  เห็นชอบ ยกระดับศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เป็นตลาดกลางขายบ้านมือสองผ่านออนไลน์ ลดปัญหาให้ธนาคารถือครองหนี้เสีย

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบนำเงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (กองทุนแบงก์รัฐ) วงเงิน 1.6 หมื่นล้าน สำหรับเพิ่มทุนให้กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) การเพิ่มทุนดังกล่าวทำให้กระทรวงการคลังถือหุ้นในไอแบงก์ร้อยละ 99.71 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด หลังจากสรรหาพันธมิตรใหม่มาร่วมทุนได้แล้ว กระทรวงการคลังจะลดการถือหุ้นเพื่อเปิดให้เอกชนมาร่วมบริหาร โดยกำหนดแผนวัดผลงานจากบริหารงาน ทั้งความเสี่ยงจากสินเชื่อใหม่ ประสิทธิภาพการบริหาร สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (LOA) ไอแบงก์มั่นใจว่า หลังประสบปัญหาขาดทุนในปี 57 จำนวน 9,500 ล้านบาท ลดลงในปี 59 เหลือขาดทุน 3,000 ล้านบาท ปี 60 ขาดทุน 3,000 ล้าบาท กองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ติดลบร้อยละ 53 เพื่อทำการเพิ่มทุนแล้ว คาดว่าในปี 61 จะมีผลกำไร 828 ล้านบาท ปี 62 มีกำไร 1,300 ล้านบาท และในปี 63 กำไร 2,000 ล้านบาท ปี 65 กำไร 2,800 ล้านบาท โดยมีสัดส่วน  กองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) 8.5 หลังจากไอแบงก์ปฎิบัติการตามแผนฟื้นฟูของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) คาดว่าจะมีผลกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นายณัฐพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ครม. ยังเห็นชอบนำ กองทุนแบงก์รัฐ ไปใช้ดำเนินจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน  จำนวน 650 ล้านบาท โดยร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  ตั้งเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนการเรียนรู้นวัตกรรมทางการเงิน พัฒนาฟินเทคสมัยใหม่ทั้งหมด พร้อมอนุมัติเงินให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 31 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลของธนาคารให้มีความทันสมัย และยกระดับให้เป็นตลาดกลางดิจิตอล นำสินทรัพย์รอการขยายของกรมบังคับคดี รับซื้อหนี้เสียของธนาคารเข้ามาเปิดจำหน่าย เป็นฐานข้อมูล (Bigdata) ขนาดใหญ่


Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

SmartSME Line