วันเสาร์, เมษายน 27, 2567

Yammer มีดีอะไร ? ทำไม Microsoft ต้องซื้อ ?

by Smart SME, 8 กรกฎาคม 2556

        ตั้งแต่เว็บเครือข่ายทางสังคมออนไลน์โด่งดัง David Sacks ซีอีโอของ Yammer ก็รู้ว่าเว็บเทรนด์นี้กำลังมา แต่ถ้าจะดีกว่าก็ควรจะนำมันมาใช้ให้ถูกที่ถูกทาง โดยเฉพาะกับการสื่อสารภายในองค์กร

        ดังนั้นเว็บ Yammer ในเวอร์ชันแรกสุดทุกคนจะรู้จักกันในนามว่า “ทวิตเตอร์สำหรับองค์กร” แต่หลังจากปี 2008 เป็นต้นมา ทางเว็บก็ได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องไปจนวันนี้ที่เรียกได้ว่าเป็น “เฟซบุ๊กสำหรับองค์กร” เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพียง 4 ปีให้หลัง Yammer โตอย่างก้าวกระโดดมียอดผู้ใช้เว็บ

        ทั้งหมด 4 ล้านคน และล้วนเป็นพนักงานบริษัททั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีองค์กรดังๆ ใช้บริการไม่ว่าจะเป็น Vodafone, Initiative Media, LG Electronics, Ford ถึงตอนนี้คิดเป็น 20% ของผู้ใช้ยอมจ่ายค่าบริการรายเดือนอีกด้วย (ซึ่งแพคเกจราคาสูงสุดคือ 450 บาท/ผู้ใช้/เดือน ซึ่งถือว่าถูกมากๆ

         สำหรับองค์กรใหญ่ที่ช่วยใช้ Yammer เป็นแพล็ตฟอร์มการพูดคุยและประสานงานในองค์กร)ระบบการสื่อสารหากันและกันในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้งานเดินต่อไปได้ เพราะบริษัทใหญ่ต้องการให้พนักงานแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัว ฉะนั้นจึงไม่ได้ให้เจ้านาย Add friend ในเฟซบุ๊กของลูกน้องหรือลูกค้าเหมือนบริษัท SMEs เล็กๆ จึงทำให้การสร้างเว็บอย่าง Yammer จึงมีลูกค้ากลุ่มใหญ่รอใช้บริการอยู่

       
จุดเด่นของ Yammer ในการเป็นเฟซบุ๊กสำหรับองค์กร

   - สามารถดีไซน์หน้าเว็บให้สอดคล้องกับสีสันหลักขององค์กรได้
   -  ผู้ใช้ทุกคนมีประวัติส่วนตัว (ที่จริงจัง ถูกต้อง เพราะนำมาใช้ในการทำงาน)
   - สร้างโพลได้
   - ถามคำถามได้
   - ส่งข้อความหากันโดยตรงได้
   - สร้างหน้าเพจสำหรับโครงการต่างๆ เพื่ออัปไฟล์ ประกาศ สร้างกลุ่มต่างๆ จะได้ตามงานกันได้
   -  เนื้อหาทุกอย่างบนเว็บแก้ไขออนไลน์ได้พร้อมๆ กันหลายคนเชื่อมต่อกับบริการของเว็บอื่นมากมาย ในรูปแบบของแอปฯ เช่น แชตผ่าน Google Talk, ค้นหาข้อมูลทุกอย่างด้วย Greplin เปนต้น

    นอกจากเว็บแล้ว Yammer ยังทำแอปฯบนมือถือเกือบทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android, Windows Phone หรือแม้แต่โปรแกรมติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ด้วย

    และวันนี้ข่าวลือใหญ่ก็คือ Yammer Inc. ยอมลงให้ไมโครซอฟท์ขายบริษัทเพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่ที่มากกว่า 3,000 ล้านบาท
ไม่ต้องสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ของ Yammer Inc.จะนำไปต่อยอดธุรกิจใดของไมโครซอฟท์ เพราะมันคือ Microsoft Office นั่นเอง

    เพราะ Microsoft Office ถือเป็นหน่วยธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ปีที่แล้วยังมียอดสูงกว่าเดิมถึง 6.4% คิดเป็นรายได้เบ็ดเสร็จ 5.3 แสนล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้คือ มากกว่าครึ่งของรายได้ทั้งบริษัทไมโครซอฟท์!

    การเข้าครอบครอง Yammer Inc. จึงเป็นจิ๊กซอว์ตัวที่สำคัญที่ไมโครซอฟท์จะประกาศต่อชาวโลกว่า Microsoft Office วันนี้จะ Goes Online! ซึ่งงานก็จะทำให้กูเกิลต้องหูผึ่งบ้าง เพราะเท่ากับว่า Google Apps อาจจะมีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเข้าให้แล้ว

    ผู้เขียนเชื่อว่าหลังจากที่ไมโครซอฟท์เข้าซื้อ Yammer ก็ยังคงต้องต่อยอดการหารายได้ 2 ทางเหมือนที่เคยทำกับตอนซื้อสไกป์ นั่นคือ ทั้งขายเครดิตการโทรออก และ โฆษณา เพราะ Yammer ก็เหมาะสมที่จะส่งสารโฆษณาที่ถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกับธุรกิจแบบ B2B
 


Mostview

หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ AI สร้างรายได้เกือบ 2 ล้านบาท ใช้เวลาแค่ 2 เดือน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพูดถึงอย่างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่ามา และคาดการณ์ว่าจะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจต่อไปในวันข้างหน้า

เปิดธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ หากเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เริ่มใช้งาน

ผลสำรวจบอกผู้มีสิทธิ์ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะเลือกใช้จ่ายร้านค้าท้องถิ่น 40% รองลงมาเป็นร้านสะดวกซื้อ เช่น CJ, 7-Eleven 26%

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรง คนไทยซื้อผ่านแพลตฟอร์ม 67% คาดมูลค่าปี 2567 แตะ 7 แสนล้านบาท

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมาแรงต่อเนื่อง โตแบบฉุดไม่อยู่ ปี 2566 มีมูลค่า 6.34 แสนล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 มูลค่าแตะ 7 แสนล้านบาท และปี 2568 มูลค่าทะลุ 7.5 แสนล้านบาท

จับตาราคา “เนย” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดโลกใกล้แตะระดับสูงสุดเท่าทีเคยมีมา

ไม่ใช่ “โกโก้” เท่านั้นที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศที่เลวร้าย และโรคที่มากับพืชจนส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะปลูก ทำให้ได้ผลผลิตน้อย นำมาสู่การปรับราคาของสินค้าที่มี “โกโก้” เป็นส่วนผสม ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

SmartSME Line